7 พฤศจิกายน 2561 : เวียตเจ็ท สายการบินยุคใหม่ของประเทศเวียดนาม ทำสัญญาสำคัญ 2 ฉบับกับ 2บริษัทชั้นนำของโลก ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจการบินของเวียดนามและสายการบินยอดนิยมของผู้บริโภคในเอเชียและทั่วโลก พิธีลงนามได้รับเกียรติจากนายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหงียน ชวน ฟุก (แถวหลังขวา) และ มร. เอดัวร์ ฟีลิป นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐฝรั่งเศส (แถวหลังซ้าย) ร่วมเป็นสักขีพยาน โดยพิธีลงนามจัดขึ้นในระหว่างการเยือนประเทศเวียดนามอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส
นางเหวียน ถิ เฟือง เถา ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินเวียตเจ็ท และ มร. คริสเตียน เชียเรอร์ ประธานฝ่ายเครื่องบินพาณิชย์ของแอร์บัส ร่วมลงนามในสัญญาสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสสุดทันสมัย รุ่น A321neo จำนวน 50 ลำ มูลค่า 6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สัญญาครั้งนี้เป็นเสมือนคำมั่นสัญญาของเวียตเจ็ทและแอร์บัสในการขยายความร่วมมือกันของทั้งสองฝ่าย ต่อเนื่องจากการสั่งซื้อเครื่องบินที่มีขึ้นก่อนหน้านี้ที่เมืองฟาร์นโบโรห์ ประเทศอังกฤษ
“เรายินดีที่ได้เป็นพันธมิตรในระยะยาวกับเวียตเจ็ท ทำให้ได้ทำสัญญาฉบับใหม่ในวันนี้” มร. คริสเตียน เชียเรอร์ กล่าว “ความนิยมของเวียตเจ็ทที่มีต่อเครื่องบินแอร์บัส ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงความเชื่อมั่นต่อเคื่องบินรุ่น A321 ในตลาดการบินที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วนี้”
เครื่องบินรุ่น A321neo ติดตั้งด้วยเครื่องยนต์รุ่นล่าสุด ระบบอากาศพลศาสตร์ขั้นสูง และนวัตกรรมห้องโดยสาร มาพร้อมกับประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิงไม่ต่ำกว่า 15% ต่อที่นั่งและจะเพิ่มสูงถึง 20% ภายในปี 2020 นอกจากนี้ แอร์บัสจะดำเนินงานตามโปรแกรมพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ซึ่งรวมถึงการฝึกอบรมนักบิน เทคนิค และทีมวิศวกร รวมถึงการบริหารจัดการเที่ยวบินและการบริหารความปลอดภัยของเที่ยวบิน
นอกจากนี้ นางเหวียน ถิ เฟือง เถา ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินเวียตเจ็ท ยังลงนามในสัญญาสำคัญอีกหนึ่งฉบับซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นในด้านนวัตกรรมใหม่ของสายการบินแห่งอนาคต กับ มร.ฟิลิปป์ กูโตซ์ รองประธานฝ่ายขายและการตลาด ซีเอฟเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล โดยสาระสำคัญในบันทึกข้อตกลงความเข้าใจฉบับนี้เกี่ยวกับการสนับสนุนด้านเครื่องยนต์ LEAP-1B ระยะยาวแก่เวียตเจ็ท ซึ่งรวมถึงเครื่องยนต์อะไหล่และแพคเกจสนับสนุน รวมมูลค่า 5.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
“เครื่องยนต์ LEAP-1B ถือว่ามีประสิทธิภาพสูงมากในการปฏิบัติการเที่ยวบินพาณิชย์ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา เราเชื่อว่าเครื่องยนต์รุ่นนี้จะเป็นสินทรัพย์สำคัญของเวียตเจ็ทในระยะยาว” มร.ฟิลิปป์ กูโตซ์ กล่าวถึงเครื่องยนต์เทอร์โบแฟนแบบ high-bypass รุ่นนี้ว่า “ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ซีเอฟเอ็มทำงานกับเวียตเจ็ทอย่างใกล้ชิด ในการนำเสนอโปรแกรมสนับสนุนมากมายทั้งในด้านการบริหารจัดการเชิงเทคนิค การฝึกอบรม และการประหยัดพลังงาน เรารู้สึกยินดีกับความเชื่อมั่นที่มีต่อกันกับซีเอฟเอ็มอย่างมากในการทำสัญญาครั้งนี้ และเรายังคงมุ่งมั่นเสริมสร้างความเข้มแข็งในทุกด้านกับเวียตเจ็ทในอนาคต”
เครื่องบินของเวียตเจ็ทในปัจจุบัน ใช้เครื่องยนต์ของซีเอฟเอ็มจำนวน 56 เครื่อง และซีเอฟเอ็มให้บริการแก่เวียตเจ็ทมาตั้งแต่ก่อตั้งสายการบินในปี 2011
สัญญาสำคัญทั้ง 2 ฉบับนี้ถือเป็นสิ่งยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเวียตเจ็ทในการขยายการเติบโต รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถในการดำเนินงาน เพื่อการขยายเครือข่ายการบิน โดยเฉพาะเส้นทางระหว่างประเทศเพื่อตอบสนองการพัฒนาของธุรกิจที่เป็นพันธมิตรของสายการบินทั่วเอเชียแปซิฟิก ซึ่งถือเป็นภูมิภาคที่อุตสาหกรรมการบินมีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดของโลก