2 พฤศจิกายน 2561 : นางชาริตา ลีลายุทธ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสมายล์ แอร์เวย์ จำกัด เปิดเผยว่า นอกเหนือไปจากพันธกิจด้านการบริการลูกค้าแล้ว สายการบินไทยสมายล์ยังมีนโยบายที่สำคัญในด้านกิจกรรมตอบแทนสังคม ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยไทยสมายล์เล็งเห็นถึงความสำคัญและประโยชน์อันยิ่งใหญ่ของการบริจาคอวัยวะ ภายใต้การดำเนินงานของศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย
อีกทั้งทราบว่า มีผู้ป่วยที่รอคอยการรับบริจาคอวัยวะอยู่เป็นจำนวนมาก จึงได้ดำเนินงานโครงการ ไทยสมายล์ให้รอยยิ้มช่วยชีวิต Smile for Life ขึ้นเป็นปีที่ 2 เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการบริจาคอวัยวะ ยิ่งไปกว่านั้นยังร่วมเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการทำงานของทีมแพทย์ที่เดินทางเพื่อไปปฏิบัติภารกิจทำการผ่าตัดผู้บริจาคอวัยวะ
พร้อมทั้งภารกิจในการขนส่งอวัยวะจากผู้บริจาคไปปลูกถ่ายให้กับผู้รออวัยวะทั่วประเทศ ซึ่งการสร้างการรับรู้และรณรงค์ให้ประชาชนทั่วไปได้ทราบและตระหนักถึงความสำคัญในการเป็นผู้บริจาคอวัยวะ มีการทำภาพยนตร์โฆษณาออนไลน์ เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับการบริจาคอวัยวะ และตอกย้ำด้านอารมณ์ความรู้สึกของการเป็นผู้ให้
ภาพยนตร์โฆษณาออนไลน์ ชุด อาสมเกียรติ สร้างสรรค์โดย ดรีม ไรเดอร์ส โดยมี นายสรรพาทิตย์ ทวีเจริญ รับหน้าที่เป็นผู้กำกับ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแนวคิดที่ว่า สายการบินไทยสมายล์ซึ่งรับหน้าที่เป็นพาหนะในการขนส่งอวัยวะจากผู้บริจาคไปปลูกถ่ายให้กับผู้รออวัยวะ เปรียบเสมือนการช่วยขนส่งความหวังและรอยยิ้มจากผู้ให้บริจาคไปสู่ผู้รับ เพราะหนึ่งรอยยิ้มและความหวังดีจากผู้ให้ คือการช่วยเติมเต็มรอยยิ้มให้กับผู้คนอีกมากมายได้อย่างแท้จริง
ภาพยนตร์ออนไลน์ชุดนี้ จะมีการเผยแพร่ผ่านทางสื่อออนไลน์ต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 เป็นต้นไป รวมไปถึงการประชาสัมพันธ์โครงการผ่านช่องทางประชาสัมพันธ์ของสายการบินไทยสมายล์ทุกช่องทาง ผู้สนใจสามารถเข้าไปชมได้ที่ www.facebook.com/ThaiSmileAirways/ และผ่านทาง Thai Smile Airways Official YouTube Channel
นพ.วิศิษฏ์ ฐิตวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย กล่าวว่า “ปัจจัยสำคัญที่สุดในการรักษานี้ คือ การให้ได้มาซึ่งอวัยวะบริจาคจากผู้เสียชีวิตในประเทศไทย แต่ละปีคาดคะเนว่ามีผู้เสียชีวิตที่อยู่ในเกณฑ์บริจาคอวัยวะได้เกือบ 1,000 คน แต่ในความเป็นจริงยังมีข้อจำกัดในการนำอวัยวะบริจาคจากผู้เสียชีวิตมาใช้รักษาผู้ป่วยอยู่มาก
อุปสรรคที่สำคัญคือ การขาดความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการบริจาคอวัยวะภายหลังที่เสียชีวิต แต่ในปัจจุบันก็มีการให้ความรู้และรณรงค์มากขึ้น ขณะนี้มีผู้ป่วยที่รอคอยอวัยวะเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะไต ซึ่งเป็นอวัยวะที่ขาดแคลน และมีผู้ป่วยรอคอยการปลูกถ่ายอยู่ 6,254 คน โดย 95% ในจำนวนนี้คือ รอไต รองลงมารอตับ ที่เหลือคือ รอหัวใจ ปอด และตับอ่อน ตามลำดับ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีผู้มาแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะปีละ 40,000-50,000 ราย แต่ในปีงบประมาณ 2560 ที่ผ่านมา ได้เพิ่มจำนวนสูงขึ้นเป็น 89,636 ราย ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้มากขึ้น
โดยในปีงบประมาณ 2560 มียอดผู้บริจาคอวัยวะเพิ่มมากขึ้นถึง 60 % และในปีงบประมาณ 2561 นี้ (ตัวเลขถึงสิ้นเดือนกันยายน) ยอดผู้บริจาคที่เสียชีวิตและสามารถนำอวัยวะไปใช้ได้ เมื่อเปรียบเทียบจากปี 2560 มีจำนวน 294 คน จนถึงขณะนี้มีผู้บริจาคแล้ว 186 คน ซึ่งสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้กว่า 417 ราย และได้วางเป้าหมายจำนวนผู้บริจาคอวัยวะจนถึงปลายปี 2561 ไว้ที่ 300 ราย ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ที่กำหนดไว้อย่างชัดเจนถึงความสำคัญและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้ประหยัดค่ารักษาพยาบาลและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”
“การบริจาคอวัยวะและการปลูกถ่ายอวัยวะ เป็นวิธีการรักษาที่ช่วยต่อชีวิตใหม่ให้แก่ผู้ป่วยที่หมดหวังที่จะรักษาด้วยวิธีการอื่นๆ เพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ การร่วมรณรงค์สร้างการรับรู้เกี่ยวกับการบริจาคอวัยวะเพื่อต่อชีวิตให้แก่ผู้ที่รอคอยด้วยความหวัง โดยไทยสมายล์ช่วยอำนวยความสะดวกในการเป็นพาหนะขนส่งอวัยวะไปยังจุดหมายต่าง ๆ นี้ ทำให้คุณภาพของอวัยวะดีขึ้น มีจำนวนอวัยวะสำหรับนำไปใช้เพิ่มมากขึ้น สร้างความปลอดภัยให้กับอวัยวะบริจาค และความปลอดภัยต่อทีมขนส่ง ลดภาระให้ทีมแพทย์ พยาบาลในโรงพยาบาลที่รับบริจาค ได้รับความรวดเร็ว และลดเวลาในการรอ” นพ. วิศิษฏ์ กล่าวเสริม
ขอเชิญชวนผู้สนใจที่ต้องการมีส่วนร่วมกับโครงการ สามารถร่วมบริจาคอวัยวะ และบริจาคเงินให้แก่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.organdonate.in.th/