24 ตุลาคม 2561 : ธนาคารกรุงไทย อัดงบกว่า 10,000 ล้านบาท ผลักดันธนาคารสู่ Invisible Banking เต็มรูปแบบ นำร่องเปิดตัวแอป “กรุงไทย NEXT” ภายใต้แนวคิด “ชีวิตครบ แอปเดียวอยู่” ให้บริการโอนมั่นใจ เติมสะดวก จ่ายครอบคลุม ชูจุดแข็งเป็นผู้นำเน็ตเวิร์คการทำธุรกรรมการเงินที่ครอบคลุมที่สุดในไทย เสมือนทำธุรกรรมที่สาขา ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุค Thailand 4.0 นำร่องยกระดับอุตสาหกรรม Mobile Banking สู่โครงสร้างระดับมหภาคอย่างแท้จริง ตั้งเป้าดันยอดผู้ใช้งานทะลุ 10 ล้านคน ภายในปี 2562 พร้อมเปิดตัว “ณเดชน์ คูกิมิยะ” พรีเซ็นเตอร์
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า การให้บริการของธนาคารได้พัฒนาจากยุค Internet Banking สู่ยุค Mobile Banking ลูกค้าทำธุรกรรมผ่าน Mobile Banking มากขึ้น โดยในปี พ.ศ. 2561 คนไทยทำธุรกรรมทั้งการโอนเงินและชำระเงินค่าบริการต่างๆ ผ่าน Mobile Banking เพิ่มขึ้นเป็น 37.9 ล้านบัญชี
แต่ยังมีประชากรไทยจำนวนมากในภูมิภาคทั่วประเทศ ที่เข้าไม่ถึงการทำธุรกรรมผ่าน Mobile Banking เพราะไม่เข้าใจเทคโนโลยี มองว่าใช้ยาก และไม่กล้าใช้งาน อีกทั้งการทำธุรกรรมจ่ายเงินบน Mobile Banking ในปัจจุบันยังไม่ครอบคลุมในทุกช่องทาง จึงยังคงใช้บริการ โอน เติม จ่าย ผ่านสาขาและตู้เอทีเอ็ม
ธนาคารกรุงไทย ประกาศยุทธศาสตร์ดิจิทัล สู่การเป็นธนาคารแรกในประเทศไทยที่จะก้าวสู่ Invisible Banking อย่างเต็มตัว โดยวางโพสิชั่นเป็น “ธุรกรรมในอากาศ” ติดตัวและเคลื่อนที่ไปกับลูกค้าในการทำธุรกรรมได้ทุกที่ทุกเวลา โดยพลิกโฉม Mobile Banking ที่ครบวงจร ครบครัน และสมบูรณ์มากขึ้น ด้วยการเปิดตัวแอป “กรุงไทย NEXT” ที่สะดวกสบาย รวดเร็ว ปลอดภัย
พร้อมให้บริการทางการเงินที่ครอบคลุมที่สุดในประเทศไทย กับประชาชนในทุกพื้นที่ของประเทศ อันเป็นจุดเริ่มต้นของการนำ Mobile Banking เข้าสู่ประชากรฐานราก ยกระดับอุตสาหกรรม Mobile Banking สู่โครงสร้างระดับมหภาคอย่างแท้จริง
นายจักรกฤษณ์ กลิ่นสมิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า “กรุงไทย NEXT” ตอบโจทย์ 3 ปัจจัย ได้แก่ 1. Platform ใหม่ เป็นแบบ Micro Service ทำให้การทำงานของแอปรวดเร็วขึ้น ใช้งานง่ายขึ้น ไม่ซับซ้อน 2. Product มีความปลอดภัยและเสถียรมาก
3. Process การจ่ายค่าบริการที่ครอบคลุมที่สุด โดย “กรุงไทย NEXT” มีการปรับเปลี่ยนระบบใหม่ทั้งหมด ทั้ง Backend และ Frontend ปรับโฉม User Interface ให้เป็นสีฟ้าสวยสดใส ลดขั้นตอนการใช้งาน โดยดึงฟังก์ชั่นโอน เติม จ่าย มาไว้ที่หน้าแรก ด้วยฟีเจอร์หลัก โอนเงิน ที่ใช้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และไม่เสียค่าธรรมเนียม
ทั้งโอนข้ามเขตและโอนต่างธนาคาร ยกระดับความปลอดภัยมั่นใจทุกครั้งที่โอน เติมเงิน สามารถเติมเงินค่าโทรศัพท์เอไอเอส ทรู, ดีแทค, My By CAT, Easy Pass และ M-PASS จ่ายเงิน ที่มีเน็ตเวิร์คการทำธุรกรรมการเงินที่ครอบคลุมที่สุดในประเทศไทย ทั้งช่องทางภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน เช่น การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าภูมิภาค การประปานครหลวง การประปาภูมิภาค (การไฟฟ้าภูมิภาคและการประปาภูมิภาคจ่ายได้ต้นเดือนพฤศจิกายนนี้) ค่าบริการโทรศัพท์มือถือ บริการรับชำระค่าปรับจราจร กรมขนส่ง กรมธนารักษ์ กรมสรรพสามิต ชำระหนี้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กสท โทรคมนาคม และบริการอื่นๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์เสริมที่หาที่อื่นไม่ได้ ได้แก่ Krungthai Travel Card ฟีเจอร์แรกและฟีเจอร์เดียวที่ลูกค้าสามารถแลกเงินตราต่างประเทศผ่านแอป “กรุงไทย NEXT” ด้วยตนเองเก็บไว้ได้ก่อนการเดินทาง ในอัตราที่พิเศษกว่าในท้องตลาดได้ถึง 10 สกุลเงิน ได้แก่ ดอลลาร์สหรัฐ ยูโร ปอนด์ เงินเยน ดอลลาร์ฮ่องกง ดอลลาร์ออสเตรเลีย ดอลลาร์สิงคโปร์ ดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และฟรังก์สวิส ทำให้ไม่ต้องพกเงินสด พร้อมดูอัตราแลกเปลี่ยนและแลกเงินเพิ่มเติมได้ง่ายๆ ตลอด 24 ชั่วโมง
อีกทั้งยังสามารถแลกกลับเป็นเงินไทยในอัตราที่ดี ไม่มีค่าธรรมเนียมแลกเงินและรูดบัตร e-Donation หรือ “กรุงไทย เติมบุญ” สามารถบริจาคเงิน ให้กับหน่วยงานรับบริจาคมากที่สุดทั้งวัด โรงพยาบาล มูลนิธิ สถานศึกษา มัสยิด และองค์กรสาธารณกุศล กว่า 7,000 แห่งทั่วประเทศ
โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม รับใบอนุโมทนาบุญอิเล็กทรอนิกส์ได้ทันที พร้อมส่งข้อมูลการบริจาคให้กรมสรรพากรสำหรับการลดหย่อนภาษี รับซื้อ-จองสลากกินแบ่งรัฐบาล และ Money Connect by Krungthai บริการรับจองซื้อหลักทรัพย์ออนไลน์ รวมทั้งซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยว เมืองรอง 55 จังหวัด พร้อมรับใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 บาท โดยข้อมูลจะถูกส่งไปที่กรมสรรพกรอัตโนมัติ
ณเดชน์ คูกิมิยะ พรีเซ็นเตอร์ ในฐานะตัวแทนของผู้บริโภค เปิดเผยความถึงความประทับใจหลังลองใช้แอป “กรุงไทย NEXT” ว่าปกติคุณแม่จะเป็นคนจัดการเรื่องการเงิน ซึ่งต้องเดินทางไปทำธุรกรรมโอนเงิน และจ่ายบิลต่างๆ ที่สาขา แอป “กรุงไทย NEXT” ทำให้ผมแบ่งเบาคุณแม่ไปได้มาก ทั้งโอนเงินและการจ่ายบิลต่างๆ ค่าไฟบ้านที่กรุงเทพฯ ก็โอนจ่ายไปที่การไฟฟ้านครหลวง ค่าไฟบ้านที่ขอนแก่น ก็โอนไปจ่ายที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ค่าอินเทอร์เน็ต ค่ามือถือ ค่าบัตรเครดิต ก็ทำธุรกรรมได้ทันที ตอนนี้สามารถทำจากสมาร์ทโฟนผ่านแอป “กรุงไทย NEXT” ได้สะดวกสบายจริงๆ
สำหรับกลยุทธ์การสื่อสารทางการตลาดนั้น ธนาคารกรุงไทยใช้กลยุทธ์ป่าล้อมเมือง ผ่านกิจกรรมสื่อสารการตลาดที่ครบวงจร สร้างการรับรู้ในวงกว้างผ่านสื่อโฆษณาโทรทัศน์ สื่อเอาท์ออฟโฮม และออนไลน์ กระตุ้นการเข้าถึงผู้บริโภคด้วยกิจกรรมออนกราวด์และโรดโชว์ทั่วประเทศ ทั้งนี้ ปัจจุบันธนาคารมีฐานลูกค้ากว่า 30 ล้านบัญชีทั่วประเทศ มีกลุ่มผู้ใช้งาน Mobile Banking มากกว่า 5 ล้านราย หลังเปิดตัวแอป “กรุงไทย NEXT” คาดว่าจะมีผู้ใช้งาน 10 ล้านคน ภายในปี 2562