19 ตุลาคม 2561 : นายโฆษิต สุขสิงห์ ผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจเบียร์ประเทศไทย บริษัท ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า สำหรับภาพรวมการทำงานในปีนี้ บริษัทฯยังคงรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบวิสัยทัศน์ 2020 ที่ตั้งเป้าก้าวสู่ผู้นำอันดับหนึ่งของประเทศไทยและอาเซียนภายในปี 2020 โดยได้จัดกิจกรรมการตลาดบนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย และตรงกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคทุก กลุ่ม เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
ทั้งยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์เบียร์ใหม่ๆ สู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปีนี้มีภาพรวมการดำเนินงานที่น่าพึงพอใจโดย “ช้าง” ยังคงเป็นแบรนด์ที่ครองความเป็นอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค (Top of mind) ถึงสามปีซ้อน จากผลสำรวจของ IPSOS และเป็นแบรนด์ที่มีผลงานโดดเด่นบนโลกออนไลน์
โดยเพจช้างเวิลด์ได้รับรางวัลชนะเลิศ Best Brand Performance กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จากเวที Thailand Zocial Awards 2018 ที่ปัจจุบันเฟสบุ๊คแฟนเพจมีผู้ติดตามถึง 1,487,661 คน ล่าสุดยังคว้ารางวัลการันตีคุณภาพจาก 2 เวทีระดับโลก ได้แก่ เบียร์ช้างและน้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง ได้รับรางวัล Gold Quality Award ประเภทเครื่องดื่มเบียร์ น้ำดื่มและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ จากสถาบัน Monde Selection 2018
และเบียร์ช้างได้รับรางวัล World Beer Championships 2018 ระดับ Silver จาก Tastings.com มาได้เพิ่มเติมจากที่เคยได้รับรางวัลชนะเลิศประเทศไทยจากเวที World Beer Awards 2017 ประเภทเบียร์ลาเกอร์ (Lager Beer) เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นเครื่องการันตีถึงคุณภาพและรสชาติที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติความสำเร็จข้างต้น สืบเนื่องมาจากความละเมียดและพิถีพิถันในการทำงานทุกขั้นตอนตั้งแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์
ตลอดจนการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและครองใจผู้บริโภคทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศซึ่งช้างสื่อสารความมุ่งมั่นนี้ผ่าน โกลบอลแคมเปญ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ละเมียด” อีกทั้งยังเป็นผลจากการรุกกิจกรรมการตลาดในรูปแบบเอ็กซ์พีเรียนเชียล มาร์เก็ตติ้ง บนแพลตฟอร์มที่หลากหลายทั้ง กีฬา อาหาร ดนตรี และไลฟ์สไตล์ เพื่อมอบประสบการณ์ตรงให้กับผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
โดยกิจกรรมที่จัดขึ้นในประเทศไทยที่เห็นเด่นชัดในปีนี้ ได้แก่ ด้านกีฬา ซึ่งช้างให้ความสำคัญกับกีฬาฟุตบอลมาโดยตลอด จึงเป็นผู้สนับสนุนหลักวงการฟุตบอลมาอย่างต่อเนื่องโดยได้เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 เพื่อมอบความสุขให้คนไทย
พร้อมกับจัดกิจกรรมดูบอลในสนามฟุตบอลเสมือนจริง หรือเวอร์ชวล สเตเดียม (Virtual Stadium) ทั้งยังสนับสนุนฟุตบอลทีมชาติไทยและสโมสรในไทยลีกถึง 23 สโมสร นอกจากนี้ในระดับนานาชาติ ช้างได้เป็นเอ็กซ์คลูซีฟเบียร์ในสนามเลสเตอร์ ซิตี้ (Leicester
City) นับเป็นการสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์และนำความภาคภูมิใจในฐานะเบียร์ไทยไปสู่สากลอย่าง กว้างขวาง
สำหรับด้านอาหาร ช้างยังคงตอกย้ำตัวตนว่าเป็นเครื่องดื่มที่เข้ากันได้ดีกับอาหารทุกประเภทผ่านกิจกรรม “ช้างเซนซอรี่ เทรลส์” (Chang Sensory Trails) และฟู้ดพาร์ค (Food Park) ทั้งในไทยและต่างประเทศ รวมถึงจัดทำรายการบนช่องทางออนไลน์ชื่อ “อลังการจานช้าง” ที่เดินทางไปเสาะหาอาหารจานเด็ดจากทั่วประเทศ
นอกจากนี้ด้านดนตรี ช้างยังคงจัดกิจกรรมที่เติมเต็มประสบการณ์ให้ผู้บริโภค อย่าง “ช้าง มิวสิค คอนเน็คชั่น” (Chang Music connection) คอนเสิร์ตที่ใช้เสียงเพลงเชื่อมต่อมิตรภาพของเพื่อน ช้าง คาร์นิวัล (Chang Carnival) กิจกรรมที่พาผู้บริโภคไปเปิดประสบการณ์เหนือจินตนาการที่ได้ดีเจระดับโลกและศิลปินชั้นนำมาร่วมสร้างความทรงจำดีๆ เป็นต้น ทั้งนี้ช้างเดินหน้ารุกตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ สิงคโปร์ เวียดนาม พม่า ฮ่องกง และอังกฤษ เป็นต้น
สำหรับแบรนด์ “เฟเดอร์บรอย” (Federbräu) หลังจากได้ปรับบรรจุภัณฑ์และฉลากผลิตภัณฑ์ให้มีความทันสมัยและพรีเมี่ยม มากขึ้น ส่งผลให้ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มเป้าหมาย ล่าสุดยังได้รับรางวัลระดับโลกถึง 2 รางวัล ได้แก่ รางวัล Silver Quality Award ประเภทเครื่องดื่มเบียร์ น้ำดื่มและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์จากสถาบัน Monde Selection 2018 และได้รับรางวัล World Beer hampionships 2018 ระดับ Gold จาก Tastings.com
ซึ่งช่วงปลายปีที่ผ่านมาได้รับรางวัลจาก 2 เวที ได้แก่ รางวัลประเภทเบียร์ลาเกอร์ (Lager Beer) สไตล์ German Style Pale จากเวที World Beer Awards 2017 และรับรางวัลการออกแบบบรรจุภัณฑ์จาก The International Beer Challenge ความสำเร็จทั้งหมดนี้มาจากการเดินหน้าสร้างภาพลักษณ์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ และจัดกิจกรรมการตลาดที่มีสีสันและตรงกับกลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นกลุ่มระดับพรีเมี่ยมโดยตรงเช่น กิจกรรม Smoothness Society ที่ร่วมกับศิลปินค่าย What The Duck
นอกจากนี้ ยังเตรียมจัดสองกิจกรรมระดับโลกในปลายปีนี้ คือ อ๊อกโทเบอร์เฟส (Oktoberfest) และงาน BAB (Bangkok Art Bienale) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มาจัดแสดงในประเทศไทย ในปีนี้ไทยเบฟฯ ยังได้เปิดตัวเบียร์น้องใหม่ “แทปเปอร์ ออริจินัล เอ็กซ์ตร้า”
มาเติมเต็มกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
พร้อมสร้างการรับรู้ถึงจุดเด่นของเบียร์ลาเกอร์ดีกรีหนักที่มีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 6.5% มาในบรรจุภัณฑ์ที่มีดีไซน์ทันสมัยจึงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค เห็นได้จากกระแสที่ถูกกล่าวถึงบนโลกออนไลน์ “สำหรับแผนการดำเนินงานของธุรกิจเบียร์ บริษัทจะยังคงสานต่อกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อเดินหน้าสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ๆ ให้ผู้บริโภคอยู่เสมอ และยังคงขยายตลาดทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
ตลอดจนแนะนำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ประเดิมด้วยเบียร์ช้างในบรรจุภัณฑ์ดีไซน์พิเศษที่สะท้อนความ “ละเมียด”
ใส่ใจในรายละเอียดทุกๆ ขั้นตอนการผลิต กลั่นกรองเอาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค โดยจะออกวางขายในช่วงเทศกาลปีใหม่ นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดตัว เฟเดอร์บรอย ไวส์เซน (Federbräu Weissbier) วีทเบียร์พรีเมี่ยมสไตล์เยอรมัน ซึ่งเราคาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเช่นเดิม” นายโฆษิต กล่าวสรุป