กรุงเทพฯ 18 ตุลาคม 2561 : ธนาคารไทยพาณิชย์และบริษัทย่อย มีรายได้จากการดำเนินงานในเก้าเดือนแรกของปี 2561 จำนวน 104,443 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน การเติบโตของรายได้ยังคงดีอยู่แม้ว่าจะได้มีการยกเลิกค่าธรรมเนียมสำหรับธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางดิจิทัล
สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานยังคงอยู่ในระดับสูง จากการลงทุนด้านเทคโนโลยีใหม่และการขยายฐานลูกค้าบนระบบดิจิทัลตามยุทธศาสตร์ของธนาคารภายใต้โครงการ SCB Transformation ทั้งนี้ ธนาคารมีกำไรสุทธิ (งบการเงินรวมก่อนสอบทาน) ในไตรมาส 3 ของปี 2561 จำนวน 10,508 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.7% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิในเก้าเดือนแรกของปี 2561 จำนวน 32,984 ล้านบาท ลดลง 2.9% จากปีก่อน
อัตราส่วน NPL ณ สิ้นเดือนกันยายน 2561 อยู่ที่ 2.80% ลดลงเล็กน้อยจาก 2.83% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2560 ทั้งนี้ ธนาคารได้ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 5,134 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2561 ส่งผลให้อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพปรับเพิ่มขึ้นเป็น 142.5% นอกจากนี้ เงินกองทุนตามกฎหมายของธนาคาร ณ สิ้นเดือนกันยายน 2561 อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 17.6%
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2561 รายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 1.1% จากไตรมาสก่อน และ 0.1% จากปีก่อน เป็นจำนวน 34,722 ล้านบาท โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีจำนวน 24,390 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลมาจากสินเชื่อที่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 5.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวดีขึ้นจากการบริหารจัดการต้นทุนเงินฝากอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีจำนวน 10,332 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 9.5% จากปีก่อน ซึ่งได้รับผลกระทบจากการยกเลิกค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางดิจิทัล และการลดลงของรายได้สุทธิจากการรับประกันภัย การลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมส่วนหนึ่งได้รับการชดเชยจากการเพิ่มขึ้นของกำไรจากเงินลงทุน และกำไรจากธุรกรรมเพื่อค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศ
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานยังอยู่ในระดับสูง จากการลงทุนอย่างต่อเนื่องในโครงการ SCB Transformation ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานในไตรมาส 3 ของปี 2561 เพิ่มขึ้น 13.6% จากปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการดำเนินงานในโครงการ Transformation รวมถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยีใหม่ เพื่อยกระดับขีดความสามารถของธนาคาร และการขยายฐานลูกค้าใหม่บนระบบดิจิทัล
นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า “ด้วยลูกค้านิยมใช้บริการธนาคารดิจิทัลมากขึ้น โครงการ SCB Transformation และการลงทุนของธนาคาร ในการสร้างความสามารถใหม่ จะมุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุด และมอบคุณค่าที่น่าสนใจให้กับลูกค้า ด้วยบริการในรูปแบบที่ “ง่ายกว่า รวดเร็วกว่า และถูกกว่า”
ที่ผ่านมาธนาคารได้ประสบความสำเร็จในการเปิดตัว SCB EASY และ SCB Business Anywhere ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลรูปแบบใหม่ สำหรับลูกค้าบุคคล และลูกค้าธุรกิจ ความพยายามเหล่านี้ และโครงการที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางภายใต้โครงการ Transformation ส่งผลให้ฐานลูกค้าดิจิทัลของธนาคารขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และมีความผูกพันในการใช้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลที่สูงขึ้น ท้ายที่สุดแล้ว โครงการ Transformation จะช่วยให้ธนาคารยังคงบทบาทและความสัมพันธ์กับลูกค้า และประสบความสำเร็จภายใต้การเปลี่ยนแปลงของธุรกิจธนาคาร”