12 ตุลาคม 2561 : สายการบินเวียตเจ็ททำการบินสู่เมืองโอซาก้า นาริตะ เซนได นาโกย่า โคมัตสุ อิบารากิ และฟุกุชิมะ ซึ่งทุกเส้นทางได้รับกระแสตอบรับจากนักเดินทางเป็นอย่างดี นอกจากนี้ สายการบินเวียตเจ็ท ร่วมกับ นาทิซิส (Natixis) เครือธนาคารในประเทศฝรั่งเศส และองค์กรในประเทศญี่ปุ่น ยังได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) มูลค่า 625 ล้านดอลล่าร์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดหาเงินทุนสำหรับการจัดซื้อเครืองบินเพิ่มอีก 5 ลำ

การจัดซื้อเครื่องบินล็อตใหม่ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาจัดซื้อเครื่องบินระหว่างสายการบินเวียตเจ็ทและบริษัทแอร์บัส ซึ่งรวมถึงเครื่อบินรุ่น A321Neo ที่ติดตั้งเครื่องยนต์รุ่นใหม่ ระบบอากาศพลศาสตร์ขั้นสูง และนวัตกรรมห้องโดยสารรูปแบบใหม่ โดยเครื่องยนต์นี้ได้รับการออกแบบให้ลดการใช้เชื้อเพลิงลงอย่างน้อย 16% ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการบิน และเพิ่มเป็น 20% ภายในปี ค.ศ. 2020 รวมถึงการลดเสียงรบกวนถึง 75% ลดการปล่อยมลพิษ 50% โดยเครื่องบินทุกลำในสัญญาจัดหาเงินทุนในครั้งนี้ จะถูกส่งมอบแก่เวียตเจ็ทในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2561 ไปจนถึงต้นปี 2562

“สัญญาจัดหาเงินทุนครังสำคัญซึ่งลงนามในวันนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นของสายการบินเวียตเจ็ทที่มีต่อเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินชาวญี่ปุ่น โดยเวียตเจ็ทยังมีแผนการเปิดเส้นทางบินเพิ่มเติมในญี่ปุ่นเร็ว ๆ นี้ด้วยเช่นกัน” นายดินห์ เวียต ฟุง รองประธานกรรมการบริหาร สายการบินเวียตเจ็ท กล่าวในงาน “การร่วมมือครั้งนี้จะสนับสนุนแผนการของเวียตเจ็ทในการขยายฝูงบินและเครือข่ายการบินได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะช่วยทำให้สามารถเชื่อมต่อกับประเทศญี่ปุ่นได้ดียิ่งขึ้น”

ภายใต้สัญญาฉบับนี้ พันธมิตรทุกรายของเวียตเจ็ทจะร่วมมือกันปฏิบัติงานที่ดีที่สุด เพื่อการดำเนินงานและบริหารจัดการสายการบิน โดยมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและส่งเสริมการเติบโตของสายการบินต่อไป

ปัจจุบัน เวียตเจ็ทมีฝูงบินแบบทางเดินเดี่ยวรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งทำให้สายการบินมีประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดีเยี่ยมในด้านความน่าเชื่อถือทางเทคนิคที่ระดับ 99.66% โดยตัวชี้วัดด้านประสิทธิภาพความปลอดภัยของเที่ยวบินและการดำเนินงานภาคพื้นก็มีอัตราสูงสุดในภูมิภาค แต่ยังสามารถมีต้นทุนการดำเนินงานต่ำที่สุดในโลก