5 ตุลาคม 2561 : บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ระบุว่า กลุ่มผู้ประกอบการที่อยู่อาศัย (Overweight) ธปท.มีการเสนอมาตรการเพื่อควบคุม NPL ของสินเชื่อที่อยู่อาศัยโดยจะมีการปรับลด LTV ratio สำหรับบ้านหลังที่สองเป็น 80% จากเดิม (90% สำหรับคอนโดมิเนียมและ 95% สำหรับบ้านแนวราบ)

รวมถึงการปรับเกณฑ์ risk-weight สำหรับสินเชื่อบ้านที่มีขนาด 10 ลบ.ขึ้นไปและบ้านหลังที่สองขึ้นไป โดยเกณฑ์ดังกล่าวได้ครอบคลุมถึงสินเชื่อประเภทอื่นๆ ส่วนเพิ่มที่ใช้บ้านหลังเดียวกันเป็นหลักประกันด้วย

โดยแม้เราจะประเมินว่ามาตรการดังกล่าวเป็นเรื่องบวก ที่จะสร้างความมั่นคงให้กับอุตสาหกรรมการเงินและอสังหาริมทรัพย์ แต่ในระยะสั้นคาดว่าจะส่งผลกระทบเชิงลบกับยอดขายโครงการใหม่ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ที่คาดมีส่วนผสมของบ้านหลังที่สองขึ้นไปมากกว่าบ้านแนวราบ รวมถึงการโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการที่ขายไปแล้ว และจะโอนกรรมสิทธิ์ในปีหน้า ซึ่งธปท.มีแผนจะบังคับใช้เกณฑ์ดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการที่เน้นลูกค้าที่เป็นบ้านหลังแรกจะไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว โดยเราเรียงลำดับบริษัทที่คาดจะได้รับผลกระทบมากสุดไปน้อยสุด (แม้ในภาพรวมเราคาดจะมีผลกระทบจำกัด เพราะตลาดส่วนใหญ่กว่า 78% เป็นบ้านหลังแรก)

ดังนี้ SIRI, ORI, AP, SC, LH, QH, SPALI, PSH และ LPN อย่างไรก็ตามเกณฑ์ดังกล่าว ถือว่ายังไม่สิ้นสุด เพราะจะมีการทำประชาพิจารณ์ในวันที่ 11 ต.ค. ซึ่งอาจทำให้เกณฑ์ที่จะออกมาจริงผ่อนคลายกว่าสิ่งที่ธปท.นำเสนอก็ได้ ในระยะสั้นประเด็นดังกล่าวจะกดดันทิศทางราคาหุ้นของกลุ่ม แต่ในระยะยาวเราเชื่อว่าผู้ประกอบการและสถาบันการเงินจะปรับตัวได้ รวมถึงทิศทางเศรษฐกิจที่ดีจะสนับสนุนความต้องการซื้อบ้านให้อยู่ในระดับที่ดี คงแนะนำ น้ำหนักมากกว่าตลาด