27 กันยายน 2561 : นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชาระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากการที่ปัจจุบันการทาธุรกรรมโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์มีปริมาณเพิ่มขึ้นมาก การใช้งานบริการพร้อมเพย์เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยร้อยละ 35 ต่อเดือน โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 2 ปี 2561 ธุรกรรมการโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์มีปริมาณเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า
อันเป็นผลจากการลดค่าธรรมเนียมการโอนเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ และพบว่าผู้ใช้บริการส่วนใหญ่นิยมใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ (mobile device) ในการโอนเงิน โดยคิดเป็นสัดส่วนมูลค่ากว่าร้อยละ 81 ของมูลค่าธุรกรรมทั้งหมด และมีอัตราเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 31 ต่อเดือน สอดคล้องกับความนิยมในการใช้ mobile banking ที่เพิ่มสูงขึ้น
ธปท. และธนาคารพาณิชย์ผู้ให้บริการ จึงได้หารือร่วมกันถึงการขยายวงเงินการทาธุรกรรมโอนเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ คือ internet banking และ mobile banking เพื่อช่วยอานวยความสะดวกให้แก่ประชาชน สามารถโอนเงินในแต่ละรายการได้สูงขึ้น ไม่ต้องแยกทารายการหลายครั้ง สอดคล้องกับความต้องการใช้งาน และช่วยสนับสนุนการทาธุรกรรมทางเศรษฐกิจการเงินของประชาชน ธุรกิจ และหน่วยงานต่าง ๆ
โดยสาหรับการโอนเงินด้วยเลขที่บัญชีเงินฝากธนาคาร ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2561 เป็นต้นไป ธนาคารพาณิชย์จะทยอยเพิ่มวงเงินสูงสุดในการโอนเงิน ตามระดับการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมของแต่ละธนาคาร จากวงเงินเดิมที่กาหนดไว้ไม่เกิน 50,000 บาทต่อรายการเป็นไม่เกิน 699,999 บาทต่อรายการ