26 พฤษภาคม 2559 : ธนาคารกรุงไทยช่วยลดภาระลูกค้าผู้ถือบัตรแถบแม่เหล็กกว่า 12 ล้านราย ยกเว้นค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนบัตรเป็นแบบชิปการ์ด จนถึงสิ้นปี 2562 พร้อมลดค่าธรรมเนียมรายปีบัตรเดบิตแบบคลาสสิกเหลือ 180 บาท เท่าบัตรเอทีเอ็ม ในปีแรก สำหรับลูกค้ารายใหม่ที่สมัครทำบัตรดังกล่าว ระหว่าง 1 มิถุนายนถึง 31 ธันวาคมนี้ ส่วนบัตรแถบแม่เหล็กเดิมยังสามารถใช้ได้ถึงสิ้นปี 2562
นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารจัดการทางการเงินเพื่อธุรกิจ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารสนับสนุนนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย สำหรับนโยบายการเปลี่ยนบัตรเอทีเอ็มที่ต้องมีชิปการ์ด ธนาคารจึงได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนบัตรแบบแถบแม่เหล็กเป็นแบบชิปการ์ดในทุกกรณี ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้ ไปจนถึงสิ้นปี 2562 ซึ่งลูกค้าสามารถทยอยเปลี่ยนบัตรได้ที่ทุกสาขาทั่วประเทศ ส่วนบัตรแบบแถบแม่เหล็กเดิมยังคงใช้งานได้จนถึงสิ้นปี 2562 ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าถือบัตรธนาคารกว่า 12 ล้านราย
นอกจากนี้ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาระบบการชำระเงินของประเทศให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลธนาคารยังได้ลดค่าธรรมเนียมรายปี บัตรเดบิตแบบ เคทีบี ช้อปสมาร์ท คลาสสิก จาก 200 บาท เหลือ 180 บาท เท่ากับค่าธรรมเนียมของบัตรเอทีเอ็ม ในปีแรก สำหรับลูกค้ารายใหม่ที่มาสมัครทำบัตรดังกล่าว ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายนถึง 31 ธันวาคม 2559 ซึ่งบัตรเดบิตจะให้สิทธิประโยชน์มากกว่าบัตรเอทีเอ็ม นอกจากการฝากถอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็มแล้ว ยังใช้ซื้อสินค้าและบริการผ่านร้านค้า และระบบ Online Shopping ซึ่งจะช่วยลดการพกพาเงินสดของประชาชน
สำหรับบัตรเดบิตแบบชิปการ์ด 4 ประเภทของธนาคาร ประกอบด้วย บัตรเคทีบี ช้อปสมาร์ท คลาสสิก ใช้ซื้อสินค้าและบริการ บัตรเคทีบี ช้อปสมาร์ทเพิร์ล คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ และการถูกโจรกรรมเงินที่ถอนผ่านเครื่องเอทีเอ็มของธนาคาร ภายใน 30 นาที ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล บัตรเคทีบี ช้อปสมาร์ท บลูไดมอนด์ เอ็กซ์ตร้า คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ ชดเชยรายได้ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล และบัตรเคทีบี ช้อปสมาร์ท พาลาเดียม คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉิน คุ้มครองการถูกโจรกรรมเงินที่ถอนผ่านเครื่องเอทีเอ็มของธนาคาร ภายใน 30 นาที และความเสียหายต่อสินค้าที่ซื้อผ่านบัตร