18 กันยายน 2561 : นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เป็นเวลากว่า 7 ปี ที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันผลักดัน ส่งเสริม และยกระดับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมในด้านต่างๆ ซึ่งทำให้สมาชิกสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกว่า 10,000 ราย ได้รับประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งด้านเงินทุนและองค์ความรู้
โดยมีวัตถุประสงค์
1) เพื่อให้ความร่วมมือในการสนับสนุนผู้ประกอบการซึ่งเป็นสมาชิกของ ส.อ.ท. ให้มีความรู้ความเข้าใจในกฎระเบียบ กฎหมาย ข้อบังคับต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อันเป็นการอำนวยความสะดวกการยกระดับกิจการเข้าสู่มาตรฐานการดำเนินธุรกิจที่ดี
2) เพื่อให้ความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมด้านการส่งเสริม และสนับสนุนการจัดการการแลกเปลี่ยน การเผยแพร่องค์ความรู้ การจัดการธุรกิจ การเงิน แก่ บุคลากร และสมาชิกของ ส.อ.ท. ให้เป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนการดำเนินงานของทั้งสองฝ่าย
3) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่สมาชิกของ ส.อ.ท. ในการเข้าถึงแหล่งทุน ตลอดจนมีความรู้ในการจัดการทางการเงิน การจัดการเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ในทางธุรกิจ
สำหรับปี 2561 นี้ ส.อ.ท. มีนโยบายในการส่งเสริม Startup และยกระดับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ซึ่งจะเน้นด้านส่งเสริมและให้ความรู้ด้าน New Marketing Platform เชื่อมโยงและสนับสนุนเอสเอ็มอีสู่ตลาดสากล (Connect to the world) ให้มากขึ้น พร้อมทั้งส่งเสริมเอสเอ็มอีให้เข้าถึงบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ๆ Technology Financing Model รวมถึงสร้างผู้ประกอบการที่ใช้นวัตกรรมเป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจ IDE (Innovation Driven Entrepreneur)
นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการสนับสนุนผู้ประกอบการจัดทำบัญชีเดียว และการเตรียมความพร้อมเอสเอ็มอีสำหรับมาตรการด้านการเงินและบัญชีมาตรฐานใหม่ที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ในปี 2562 โดยเน้นการประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลและสร้างแรงจูงใจให้กับผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบบัญชีเดียว และการจัดหาแพลตฟอร์มทางบัญชีสำหรับเอสเอ็มอีด้วยการส่งเสริมและยกระดับผู้ประกอบการรวมไปถึงเครือข่ายพันธมิตรด้วย
นางพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสูงสุด SME Segment ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นับเป็นพันธมิตรที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้น อย่างยาวนาน ด้วยความมุ่งมั่นที่จะร่วมกันพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการไทย เพื่อช่วยให้ธุรกิจเติบโตต่อไปอย่างแข็งแกร่งภายใต้ปัจจัยแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ซึ่งที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรมร่วมกันหลากหลายโครงการ
ตลอดจนได้แลกเปลี่ยนข้อมูลและองค์ความรู้ที่ผู้ประกอบการในคลัสเตอร์ต่างๆ จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจ สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้นับเป็นความร่วมมือต่อเนื่อง ครอบคลุมระยะเวลาตั้งแต่ปัจจุบัน – 2563 โดยทั้งสององค์กรจะสานต่อเจตนารมณ์ร่วมกันต่อไป สำหรับภารกิจเร่งด่วนที่ธนาคารไทยพาณิชย์และ ส.อ.ท.ให้ความสำคัญในขณะนี้ คือ การมุ่งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีตระหนักถึงความสำคัญและการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องของการจัดทำงบการเงินให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากรตามมาตรฐานบัญชีเดียว
ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ทั้งข้อมูลทางด้านบัญชีที่เป็นมาตรฐาน และเพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน ลดภาระต้นทุนทางด้านดอกเบี้ยเพราะไม่ต้องหันไปพึ่งเงินกู้นอกระบบ ทั้งนี้ กฎหมายได้กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งจะต้องเริ่มใช้งบการเงินชุดเดียวกับที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีนำส่งกรมสรรพากรมาประกอบการพิจารณาสินเชื่อ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2562 เป็นต้นไป