WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันจันทร์ ที่ 25 พฤศจิกายน 2567 ติดต่อเรา
วางกลยุทธ์ดีๆช่วงหุ้นผันผวน ก็ปังได้ !!!

17 กันยายน 2561 : ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นไทยผันผวน เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง แต่ความผันผวนที่เกิดขึ้นก็เดาไม่ยาก ว่าปัจจัยลบมาจากอะไรบ้างแต่ที่ขำขัน… เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา เมื่อ 6 สาวไอดอล AKB 48 จากญี่ปุ่น เข้าพบ”ลุงตู่” ของเรา พร้อมกับโชว์เพลงต้นตำรับ “คุกกี้เสี่ยงทาย” ของสาวๆ วง BNK48 ของไทย แหม่…ดัชนีหุ้นไทยก็วิ่งปรู๊ดไปเกือบ 40 จุด เป็นได้น่ะ… แต่สาเหตุหลักที่ทำให้ดัชนีเมื่อวันที่ 13 กันยายนทะยานแรง เป็นเพราะความขัดเจนในการเลือกตั้งรัฐบาลไทย ที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 นั่นเอง

ก็ถือเป็นข่าวดีๆสำหรับประเทศไทยและตลาดทุนไทยกันไป คราวนี้เรามาดูกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นไทยกันหน่อย ว่าวางแผนไงดี จะได้มีเงินแบบปังๆ…

ล่าสุด ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บล.เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ออกมาระบุว่า ตลอด 8 เดือนที่ผ่านมาของปี 2561 ตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนตลอดเวลา บางวันดัชนีขึ้นลงราวกับนั่งรถไฟเหาะ แต่ไม่ว่าบรรยากาศตลาดจะเป็นแบบไหน หากมีกลยุทธ์การลงทุนชัดเจนก็สามารถลงทุนและทำกำไรได้

ทั้งนี้ หากมองภาพรวมการลงทุนที่เหลือของปีนี้ว่า “ตลาดหุ้นจะมีความผันผวนและความผันผวนจะอยู่กับนักลงทุนไปตลอดทั้งปี” โดยปัจจัยหลักๆ มาจากนโยบายการค้าของสหรัฐอเมริกา ราคาน้ำมันที่ยังคงผันผวน ทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้น

“ปัจจัยภายนอก มีน้ำหนักมากสุดที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยผันผวน ส่วนปัจจัยภายในประเทศก็มีเพียงการปลดล็อกทางการเมือง ที่ทุกคนจับตาว่าจะมีการเลือกตั้งในช่วงไหน” ดร.วิน ระบุ

ทั้งปัจจัยภายในและภายนอกเหล่านี้ล้วนสร้างความผันผวนให้กับตลาดหุ้นไทยได้ตลอดเวลา ประกอบกับตลาดหุ้นอยู่ในภาวะขาขึ้นมาตลอด 10 ปี “ดังนั้น หุ้นตัวไหนที่ราคาปรับขึ้นไปสูงๆ ย่อมได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบต่างๆ สูงตามไปด้วย หมายความว่า ราคาหุ้นพร้อมปรับลดลงได้ตลอดเวลา

ดร.วิน เล่าให้ฟังอีกว่า ความผันผวนที่เห็นก็คือราคาหุ้นขยับขึ้น แต่เมื่อมีปัจจัยลบเข้ามา จะทำให้ราคาหุ้นปรับลดลงทันที และทันทีที่มีปัจจัยบวกเข้ามา ราคาหุ้นหรือตลาดหุ้นก็พร้อมปรับขึ้นทันทีเช่นกัน “นี่คือภาพความผันผวน และจากนี้ไปจนถึงปลายปี ทิศทางตลาดหุ้นจะไม่มีคำว่า ขึ้นอย่างเดียว หรือลงอย่างเดียว

จากความผันผวนดังกล่าว ทำให้นักลงทุนเริ่มใช้กลยุทธ์ Wait & See เพื่อรอตลาดนิ่งแล้วค่อยกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้ง แต่มีความเห็นว่าในช่วงภาวะตลาดผันผวนก็สามารถลงทุนและทำกำไรได้

“ถ้าหุ้นที่ซื้อเอาไว้ราคาปรับขึ้นก็ขายทำกำไร ถ้าตลาดหุ้นผันผวนและทำให้ราคาปรับลดลง ก็เข้าซื้อหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี” ดร.วิน กล่าว

นั่นหมายความว่า ลงทุนหุ้นยามผันผวนต้องดูหุ้นที่ make sense หรือสมเหตุสมผล “ถ้าให้ซื้อแล้วถืออย่างเดียวและถือไปนานๆ อาจไม่เหมาะสมกับภาวะตลาดหุ้นในตอนนี้ แม้กระทั่งนักลงทุนเน้นคุณค่ายังต้องปรับกลยุทธ์การลงทุนให้สั้นลง

ยกตัวอย่าง ถ้าดัชนีหุ้นปรับลงลึก ดร.วิน แนะนำให้ “ซื้อ” และเมื่อดัชนีปรับขึ้น แนะนำ “ขาย” โดยหากลงทุนตามดัชนี (Index) ควรเน้นหุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap) ซึ่งวิธีการนี้รู้จักกันดีว่าลงทุนตาม Beta หมายถึง คาดหวังผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนตลาดโดยรวม “ถ้าตลาดขึ้น ผลตอบแทนก็ขึ้นตาม ถ้าตลาดลง ผลตอบแทนก็ลงตาม

อีกกลยุทธ์หนึ่งก็คือ การเลือกลงทุนหุ้นแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งเรียกการลงทุนแบบนี้ว่า Alpha Investing คือมุ่งเน้นผลตอบแทนสูงกว่าตลาดโดยรวม “หุ้นที่น่าสนใจและเหมาะสมกับการลงทุนที่เน้นหา Alpha คือหุ้นที่มี Valuation ค่อนข้างถูก อย่าเลือกหุ้นที่มี P/E Ratio สูงกว่าระดับ P/E Ratio ตลาด

ดร.วิน แนะนำว่า การลงทุนสไตล์ Alpha ในบางครั้ง หากตลาดขึ้น ราคาหุ้นที่ซื้อเอาไว้อาจจะปรับลง หรือตลาดหุ้นปรับลง ราคาหุ้นที่ซื้ออาจจะปรับขึ้นสวนทาง “ถ้าลงทุนหุ้นประเภทนี้ ต้องทำใจว่าอาจถูกเทขายในช่วงสั้นๆ ดังนั้น ในช่วงตลาดผันผวนการลงทุนตามดัชนีหุ้นจะง่ายกว่าแบบ Alpha

สำหรับปีนี้ ดร.วิน ประเมิน Earnings Growth ตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ระดับประมาณ 7 – 9% “ดังนั้น ถ้าเล่นตาม Beta ผลตอบแทนประมาณ 5 – 7% เป็นอะไรที่กำลังสวย ใครที่หวังผลตอบแทนเยอะๆ เหมือนปีที่แล้วคงต้องใช้ฝีมือ แต่นั่นก็มาพร้อมกับความเสี่ยงสูงเช่นกัน

การเงิน ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP