JWD ผู้นำธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ภาคพื้นดิน เดินหน้าขยายธุรกิจในอาเซียนตามแผน จับมือกลุ่ม JB TRADING ผู้เแทนจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ใน สปป.ลาว ร่วมทุนพัฒนาโครงการอาคารคลังสินค้าทั่วไปแห่งใหม่ที่เมืองเวียงจันทน์ พื้นที่ 3,200 ตารางเมตร คาดก่อสร้างแล้วในช่วงไตรมาสแรกปี 2560 รับความต้องการเช่าพื้นที่เก็บสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจที่กำลังขยายตัว พร้อมศึกษาโอกาสการลงทุนขยายคลังสินค้าเฟสที่ 2 ต่อเนื่อง ช่วยหนุนบริษัทฯ ก้าวสู่ผู้นำธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ในอาเซียนในอนาคต
นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD เปิดเผยว่า ได้วางแผนขยายการลงทุนธุรกิจโลจิสติกส์และคลังสินค้าในประเทศ สปป.ลาว อย่างต่อเนื่อง หลังจากเมื่อปีที่ผ่านมา JWD เข้าไปลงทุนโครงการอาคารคลังสินค้าทั่วไปและสินค้าควบคุมอุณหภูมิแช่เย็นและแช่แข็งที่เมืองเวียงจันทน์ มีพื้นที่ให้เช่า 750 ตารางเมตร ล่าสุดได้เดินหน้าขยายการลงทุนต่อเนื่อง โดยครั้งนี้เป็นความร่วมมือกับกลุ่ม JB TRADING ซึ่งดำเนินธุรกิจเป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ใน สปป.ลาว จัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้น โดย JWD ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 60% เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการอาคารคลังสินค้าทั่วไปที่เมืองเวียงจันทน์ รองรับลูกค้าที่ต้องการเช่าพื้นที่คลังสินค้าที่มีการบริหารจัดการที่ได้มาตรฐาน
โครงการดังกล่าวออกแบบเป็นอาคารหลังเดียว มีพื้นที่คลังสินค้าให้เช่าประมาณ 3,200 ตารางเมตร ใช้งบลงทุนรวม 75 ล้านบาท จะเริ่มก่อสร้างในช่วงกลางปีนี้และคาดว่าแล้วเสร็จภายในช่วงไตรมาสแรกปีหน้า โดยจะเป็นคลังสินค้าทั่วไปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองเวียงจันทน์และเป็นหนึ่งในคลังสินค้าที่มีระบบการบริหารจัดการที่ได้มาตรฐานสูง ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจด้านคลังสินค้าให้กับ JWD ใน สปป.ลาว
“การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ส่งผลให้มีกลุ่มทุนจากต่างประเทศที่ขยายฐานธุรกิจเข้าไปลงทุนใน สปป.ลาว ซึ่งมีทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่จากต่างประเทศและผู้ประกอบการท้องถิ่นที่ขยายธุรกิจเพื่อรองรับโอกาส ทำให้เกิดความต้องการผู้ให้บริการด้านคลังสินค้าทั่วไปเพื่อเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น” นายชวนินทร์ กล่าว
ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JWD กล่าวว่า ภายหลังเปิดให้บริการคลังสินค้าทั่วไปแห่งใหม่ในเมืองเวียงจันทน์จะสามารถสร้างรายได้ทันที เนื่องจากในเบื้องต้นทาง JB TRADING ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่งในโครงการดังกล่าว มีความต้องการจะเช่าพื้นที่เพื่อใช้จัดเก็บสินค้าประมาณ 1,200 ตารางเมตร หรือกว่า30% ของพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลดีต่อความมั่นคงของรายได้หลังจากเปิดดำเนินการคลังสินค้า ส่วนพื้นที่ที่เหลืออีกทางบริษัทฯ จะปล่อยเช่าให้กับลูกค้าทั่วไป โดยวางเป้าหมายภายใน 2 ปี นับจากเปิดให้บริการจะมีอัตราการเช่าพื้นที่ 85% ของทั้งหมด
ทั้งนี้ ในอนาคต JWD มีแผนขยายการลงทุนคลังสินค้าใน สปป.ลาว อย่างต่อเนื่อง โดยอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนขยายคลังสินค้าเฟสที่ 2 เพื่อรองรับโอกาสทางธุรกิจจากเศรษฐกิจที่กำลังขยายตัวและธุรกิจร้านอาหารใน สปป.ลาว ที่กำลังเติบโต เนื่องจากไลฟ์สไตล์ประชาชนชาวลาวนิยมรับประทานอาหารนอกบ้านเพิ่มขึ้น จึงมีผู้ประกอบการในธุรกิจร้านอาหารที่มีความต้องการเช่าพื้นที่คลังสินค้าที่มีการบริหารจัดการที่ได้มาตรฐาน จึงนับเป็นโอกาสที่ดีของ JWD ในการขยายธุรกิจใน สปป.ลาว เพื่อผลักดันบริษัทฯ ก้าวสู่ผู้นำธุรกิจโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียนตามวิชั่นที่วางไว้