10 กันยายน 2561 : นับตั้งแต่กลางปี2560 รัฐบาลมักจะยาหอมให้นักลงทุนต่างประเทศได้ฟังบ่อยๆ ว่าประเทศไทยมีการพัฒนาประเทศผ่านโครงการนั้นโครงการนี่ และเชื่อว่าประเทศไทยจะกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

การโปรยยาหอมในรอบนั้น ทำให้ตลาดหุ้นไทยมีความหวือหวา นักลงทุนไทยและนักลงทุนต่างประเทศ เริ่มไว้ใจรัฐบาลไทยมากขึ้น แม้จะเป็นรัฐบาลจัดตั้งไม่ใช่รัฐบาลเลือกตั้งก็ตาม แต่ยาหอมก็ได้ผลไม่น้อย ดูได้จากดัชนีหุ้นไทยที่ทยานแตะที่ละระดับ1753.71 จุด ในวันที่30 ธันวาคม 2560 และทยานต่อเนื่องข้ามปีมายังปี2561 ทำให้วันที่27 กุมภาพันธ์2561 ดัชนีหุ้นไทยพุ่งสูงถึง 1,852.51 จุด ก่อนเจอปัจจัยลบจากต่างประเทศเข้มากระทบอย่างต่อเนื่อง ทำให้ดัชนีปรับตัวลดลงต่ำกว่า1,600 จุด

ช่วงที่ดัชนีค่อยๆปรับตัวขึ้นในช่วงปลายปีที่ผ่านมา โครงการหลายโครงการยังเป็นแค่ลมปาก บางโครงการเดินหน้าไปครึ่ง บางโครงการยังไม่ได้เริ่มเลย บางโครงการก็ไปกว่าครึ่ง งบเบิกจ่ายจากภาครัฐก็ยังมีไม่มาก แต่ก็ทำให้ดัชนีวิ่งปรู๊ดป๊าดได้มากทีเดียว เชื่อว่าถ้าไม่มีปัจจัยลบจากต่างประเทศเข้ามากระทบบ่อยๆ ดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสแตะกว่า1,900 จุดได้ไม่ยาก

ส่วนสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้ จะเติบโตอย่างที่ปากรัฐบาลพูดหรือไม่ ต่อไปนี้คงเดาไม่ยากแล้ว ล่าสุดคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ได้ออกมาเปิดเผยตัวเลขกงยอดการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมของรัฐวิสาหกิจ 45 แห่ง ที่ สคร. กำกับดูแลโดยตรงตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 – กรกฎาคม 2561 มีจำนวน 262,998 ล้านบาท ขยายตัวสูงถึง 71% เมื่อเทียบกับผลเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมในช่วงเดียวกัน ของปี 2560

นับเป็น“เครื่องชี้การลงทุนรัฐวิสาหกิจ” ได้น่าสนใจไม่น้อย เพราะการเติบโตสูงถึง 71% นั้น แสดงให้เห็นว่าเครื่องมือนี้จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่องนั้นเอง

ผลการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมของรัฐวิสาหกิจ 45 แห่ง ที่เติบโตขึ้นสูงนั้น โดยการลงทุนที่เติบโตของรัฐวิสาหกิจเป็นผลมาจากการเร่งลงทุนของรัฐวิสาหกิจที่มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ อาทิ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ – ขอนแก่น ของการรถไฟแห่งประเทศไทย โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย โครงการทดแทนโรงไฟฟ้าพระนครใต้ ระยะที่ 1 ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย รวมถึงการเพิ่มทุนให้แก่บริษัทในเครือของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อไปลงทุนต่อ

นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการ สคร. ในฐานะโฆษก สคร. กล่าวว่า ผลการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมของรัฐวิสาหกิจทั้ง 45 แห่ง ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 – กรกฎาคม 2561 มีจำนวน 281,274 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 91 ของแผนการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม โดยรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 – กรกฎาคม 2561 จำนวน 78,718 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 78 ของแผนการเบิกจ่าย งบลงทุนสะสม และรัฐวิสาหกิจปีปฏิทินเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม ตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 – กรกฎาคม 2561 จำนวน 202,556 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 97 ของแผนการเบิกจ่ายลงทุนสะสม

ทั้งนี้ การลงทุนของรัฐวิสาหกิจยังคงเป็นเครื่องมือ ที่สำคัญของรัฐบาลในการขับเคลื่อนนโยบายสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2561 ให้ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาวต่อไป

ในเมื่อตัวเลขเครื่องชี้วัดเศรษฐกิจไทย ออกมาดีขนาดนี้ เร่ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่า เศรษฐกิจไทยจะไปไกลอย่างที่รัฐบาลมองไว้หรือไม่