23 สิงหาคม 2561 : ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการตามโครงการสร้างความเข้าใจด้านการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ สำนักงาน คปภ. หลักสูตรการทบทวนแผนยุทธศาสตร์สำนักงาน คปภ. สำหรับผู้บริหารระดับสูง เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2561 ณ ห้องประชุมพระตำหนัก อาคารบี โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ พระตำหนัก จังหวัดชลบุรี
การอบรมเชิงปฏิบัติการสร้างความเข้าใจด้านการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ ทบทวนแผนยุทธศาสตร์ของสำนักงาน คปภ. เป็นการระดมความคิดเห็นเริ่มจากระดับ Bottom up ไปสู่ระดับ Top Down ได้ทำให้ผู้บริหารและพนักงาน ทุกระดับเข้ามามีส่วนร่วมในการวิเคราะห์และจัดทำแผนยุทธศาสตร์ และแผนบริหารความเสี่ยงให้มีความเหมาะสม สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีในยุค Thailand 4.0 เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2561
โดยครั้งแรก พนักงานสำนักงาน คปภ. ภาค 1-5 เมื่อวันที่ 23-24 กรกฎาคม 2561 ครั้งที่สอง พนักงานสำนักงาน คปภ.ส่วนกลาง เมื่อวันที่ 14-15 สิงหาคม 2561 ครั้งที่สาม พนักงานสำนักงาน คปภ. ภาค 6-9 เมื่อวันที่ 16-17 สิงหาคม 2561
สำหรับการอบรมครั้งนี้ เป็นครั้งที่สี่ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2561 สำหรับผู้บริหารระดับสูง โดยวันที่ 19 สิงหาคม 2561 เลขาธิการ คปภ. ได้มอบนโยบายว่า สำนักงาน คปภ. กำหนดให้ปี 2562 “เป็นปีแห่งการส่งเสริมการนำนวัตกรรมดิจิทัล มาใช้เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมประกันภัยไทย และคุ้มครองประชาชนให้ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัยอย่างครบถ้วน รวดเร็วและเป็นธรรม และยังคงต่อยอดการดำเนินงานที่สำคัญในปี 2561 ที่มุ่งเน้นการกำกับตรวจสอบธุรกิจประกันภัย ควบคู่กับการยกระดับศักยภาพองค์กรให้มีบุคลากรที่มีศักยภาพ และนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน รวมถึงการให้บริการประชาชน”
สำหรับสรุปผลการวิเคราะห์ประเด็น SWOT ทั้ง 4 ด้าน พบว่าตำแหน่งยุทธศาสตร์ของสำนักงาน คปภ. ที่ควรมีการปรับตำแหน่งให้เป็น “เชิงรุก” โดยต้องลดและขจัดจุดอ่อน พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส และการใช้จุดแข็งที่มีอยู่ด้วยการเพิ่มความท้าทายโดยใช้กลยุทธ์ “2ล2ส” คือ “ลด เลิก สร้าง เสริม” เพื่อให้มีความได้เปรียบเชิงแข่งขัน
จากนั้นในวันที่ 20 สิงหาคม 2561 ผู้บริหารระดับสูงได้ร่วมกันทบทวนสาระสำคัญของแผนยุทธศาสตร์สำนักงาน คปภ. ระยะ 5 ปี และระดมความคิดเห็นพร้อมประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานของสำนักงาน คปภ. ประจำปี 2562 ทั้งนี้ ผลการจัดทำ Balance Scorecard แสดงความเชื่อมโยง 4 มิติ คือ มิติประสิทธิผล มิติคุณภาพบริการ มิติประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน และมิติพัฒนาองค์กร ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์สำนักงาน คปภ. โดยแบ่งกลุ่มเพื่อเขียนโครงการในยุทธศาสตร์ออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มที่ 1 ด้านกำกับ ได้นำเสนอโครงการที่สำคัญคือ การเพิ่มศักยภาพและการแข่งขันด้านการประกันภัยต่อ
กลุ่มที่ 2 ด้านกฎหมาย คดีและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ ได้เสนอโครงการที่สำคัญคือ การพัฒนาระบบการรับเรื่องร้องเรียนและการติดตามเรื่องร้องเรียนออนไลน์ การพัฒนา application ในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการประกันภัยแก่ผู้ใช้บริการ และการพัฒนาระบบการรับเรื่องร้องเรียนและติดตามเรื่องร้องเรียน
กลุ่มที่ 3 ด้านตรวจสอบ ได้เสนอโครงการที่สำคัญคือ การผ่อนคลายการกำกับดูแลผลิตภัณฑ์ประกันภัย การพัฒนามาตรฐาน GRC และการกำกับดูแลด้วยตนเอง การประเมินความพร้อมเพื่อจัดทำแนวทางการบังคับใช้ IFRS17 เป็นต้น
กลุ่มที่ 4 หน่วยงานที่ขึ้นตรงต่อเลขาธิการ ได้เน้นโครงการการยกระดับสำนักงาน คปภ. สู่องค์กรที่ทันสมัย (Smart OIC) อาทิ การยกเลิกกฎระเบียบที่ไม่จำเป็นที่เป็นอุปสรรคต่อธุรกิจประกันภัย และไม่กระทบต่อสิทธิประโยชน์ของประชาชน ผ่านโครงการ Regulatory Guillotine การพัฒนา Chat Bot คปภ. เป็นต้น