23 สิงหาคม 2561 : นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือในขณะนี้ ส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ สร้างความเสียหายให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเป็นจำนวนมาก ซึ่งพื้นที่ทั้ง 2 ภาคที่ได้รับผลกระทบมากในครั้งนี้ เป็นพื้นที่เอาประกันภัยภายใต้โครงการประกันภัยข้าวนาปีเป็นส่วนใหญ่
ซึ่งขณะนี้ทางทีมงานของสมาคมฯ ได้ประสานงานกับ กรมส่งเสริมการเกษตร และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อตรวจสอบข้อมูลการขึ้นทะเบียนพร้อมทั้งการปรับสมุดทะเบียนเกษตรกร การทำประกันภัย ตลอดจนการสรุปความเสียหาย เพื่อนำมาเข้าระบบฐานข้อมูลของสมาคม และดำเนินการพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับเกษตรกรโดยเร็ว ซึ่งเป็นการช่วยบรรเทาความเดือนร้อนให้กับเกษตรกรที่ประสบกับความเสียหายได้อย่างทันท่วงที
ปัจจุบันกระบวนการจ่ายค่าสินไหมทดแทน ภายใต้โครงการประกันภัยข้าวนาปี ซึ่งมีบริษัทประกันวินาศภัยร่วมรับประกันภัยทั้งสิ้น 22 บริษัท และสมาคมเป็นผู้บริหารจัดการโครงการประกันภัยข้าวนาปีนี้ เกษตรกรสามารถตรวจสอบพื้นที่รายแปลงและรายบุคคล ในพื้นที่ที่รัฐประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ ซึ่งมีข้อมูลที่ถูกต้องสมบูรณ์ เป็นการทำงานแบบบูรณาการระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public Private Partnership) ทำให้การจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับเกษตรกรเป็นไปอย่างรวดเร็ว และถูกต้อง ซึ่งเป็นโมเดลต้นแบบที่ดีมาก ๆ สำหรับการประกันภัยพืชอื่น ๆ ต่อไป
นอกจากนี้เกษตรกรผู้เอาประกันภัย ตลอดจนเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องของภาครัฐ ยังสามารถเข้าถึงข้อมูลเพื่อตรวจสอบสถานะการทำประกันภัยและการจ่ายค่าสินไหมทดแทนผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือระบบ Online จาก Website: rice.tgia.org โดยใช้รหัสบัตรประชาชนของชาวนา และหมายเลขใบรับรองการประกันภัย เข้าตรวจสอบได้ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้สมาคมฯ ยังมีสายด่วนโครงการประกันภัยข้าวนาปี โทร. 06 1404 4422
สำหรับผลการดำเนินโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2560 ที่ผ่านมาปรากฏว่า มีพื้นที่รับประกันภัย จำนวน 22,395,471.51 ไร่ มีเบี้ยประกันภัยรับสุทธิ จำนวน 2,015,592,427.60 บาท พื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย รวม 1,645,118.52 ไร่ และสมาคมฯ ได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับเกษตรกร จำนวน 2,072,849,336.69 บาท คิดเป็นอัตราความเสียหาย 103.29% โดยเป็นการโอนเงินเข้าระบบบัญชีของชาวนา ผ่าน ธ.ก.ส. อย่างราบรื่นมากว่า 3 ปีแล้ว