21 สิงหาคม 2561 : นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) เปิดแผยว่า บริษัทมั่นใจกำไรสุทธิปีนี้จะขึ้นไปแตะระดับ 5 พันล้านบาท สูงกว่าระดับ 3.3 พันล้านบาทในปีก่อน หลังจากช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีกำไรสุทธิแล้ว 2.5 พันล้านบาท โดยเป็นการเติบโตทุกภาคส่วน ทั้งธุรกิจบัตรเดรดิต สินเชื่อส่วนบุคคล ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) กลับมาดีขึ้น ส่งผลให้บริษัทตั้งสำรองลดลง
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงประมาณการเป้าหมายพอร์ตลูกหนี้รวมธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลปีนี้เติบโต 10% ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรรวมขยายตัวไม่ต่ำกว่า 15% และรักษาสัดส่วน NPL ให้คงอยู่ในระดับเดียวกับปีก่อนที่ 1.3%
“กำไร 5 พันล้านบาท จะเป็นระดับกำไรที่เป็นปกติใหม่ของบริษัท ไม่ได้เกินจริง หรือไม่คิดว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่สิ่งที่เราโฟกัส คือ ธุรกิจใหม่ และการทำอย่างไรให้ปีหน้ายังมีการเติบโตที่มากกว่าปีนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่เป็นเรื่องที่ต้องทำให้ได้ ในส่วนของข่าวลือที่ว่าเอาสำรองมาเป็นกำไรนั้น อย่างไรข่าวลือก็ยังเป็นแค่ข่าวลือเท่านั้น”นายระเฑียร กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาในการทำธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ และ พิโกไฟแนนซ์ ซึ่งบริษัทได้เสนอเรื่องไปยังธนาคารกรุงไทย (KTB) เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งหากได้รับความเห็นชอบทางธนาคารกรุงไทยก็จะส่งเรื่องไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลังต่อไป โดยรูปแบบการทำธุรกิจยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในตอนนี้
“เรามองธุรกิจนี้มา 2 ปี เรามีแผนธุรกิจที่ชัดเจน แต่บอกไม่ได้ เพราะเดี๋ยวคู่แข่งทำตาม ซึ่งหากได้รับการอนุมัติเราก็ทำได้เลย ใช้เวลา 30 วันในการดำเนินการ ซึ่งการที่เราแตกไลน์ทำธุรกิจนี้ เพราะต้องการสร้างการเติบโตของกำไรและรายได้ในปีถัดไป แม้ช่วงแรกจะยังไม่มีกำไรก็ตาม แต่เรามองเห็นโอกาส ดูได้จากดอกเบี้ยเดิมเราคิด 28% แต่ธุรกิจนี้คิดดอกเบี้ยได้ถึง 36% เพิ่มขึ้น 8%”นายระเฑียร กล่าว