กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ ประกาศ “พันธกิจใหม่ : ทำให้คนไทยมีบ้าน” เพื่อไปสู่เป้าหมายเดียวกันภายใต้ “วิสัยทัศน์ : ธนาคารที่ดีที่สุด สำหรับการมีบ้าน : The Best Housing Solution Bank” โดยใช้กลไกหลัก 3 ด้าน พร้อมวางเป้าหมายการบริหารงาน 4 ปี ทำให้ ธอส.เป็นองค์กรที่แข็งแกร่งและยั่งยืนด้วยสินทรัพย์รวม 1.2 ล้านล้านบาท
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวถึงนโยบายและทิศทางการขับเคลื่อน ธอส.เริ่มจากการสร้างทีมงานที่แข็งแกร่งเพื่อร่วมกันทำให้ ธอส.เป็น “ธนาคารที่ดีที่สุด สำหรับการมีบ้าน : The Best Housing Solution Bank” โดยใช้กลไกขับเคลื่อน 3 ด้าน เพื่อนำ ธอส.ไปสู่เป้าหมายเดียวกัน ได้แก่
ด้านแรก Social Solution หรือ การดูแลกลุ่มผู้ด้อยโอกาสให้เข้าถึงระบบการเงินเพื่อที่อยู่อาศัย โครงการนโยบายรัฐ อาทิ โครงการบ้านประชารัฐ โครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ และโครงการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการมีที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ รวมถึงผลิตภัณฑ์สินเชื่อ อาทิ สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ด้อยโอกาส สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ และสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับบุคลากรทางการศึกษา และโครงการ CSR ด้านที่อยู่อาศัย อาทิ โครงการ ธอส.โรงเรียนการเงินเพื่อให้ความรู้ทางการเงินแก่ประชาชน (Financial Literacy) และโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนผู้ด้อยโอกาส
ด้านที่ 2. Business Solution หรือ การเป็นผู้นำสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเพื่อเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับกลุ่มผู้มีรายได้สูง โดยการทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อ และ Efficiency Business Model รวมถึงนวัตกรรมสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่หลากหลายเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าทุกระดับ ผ่านผลิตภัณฑ์สินเชื่อ อาทิ โครงการสินเชื่อสำหรับวงเงินกู้มากกว่า 3 ล้านบาท และโครงการสินเชื่อสวัสดิการ Efficiency Business Model โครงการร่วมมือกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ (Developer)
จัดทำศูนย์ปฏิบัติการสินเชื่อนครหลวง (Premier Service Center) หรือศูนย์ One Stop Service ในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่ออย่างครบวงจร ซึ่งจะทำให้การพิจารณาปล่อยสินเชื่อให้แก่กลุ่มลูกค้าของผู้ประกอบการมีความคล่องตัวมากขึ้น โครงการความร่วมมือกับการเคหะแห่งชาติ เพื่อจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อในหลากหลายรูปแบบ โครงการ LTF / FAST TRACK ให้บริการสินเชื่อ Post Finance แก่ลูกค้ารายย่อยที่เข้าร่วมโครงการกับธนาคาร ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้ารายย่อยของโครงการดังกล่าวได้รับวงเงินกู้สูง ใช้เวลาในการพิจารณารวดเร็ว และไม่มีค่าใช้จ่ายในการประเมินราคาหลักทรัพย์
โครงการ Pre/Post Finance การให้บริการสินเชื่อพัฒนาโครงการ (Pre Finance) ให้แก่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์มืออาชีพที่มีศักยภาพและมีความน่าเชื่อถือในการดำเนินธุรกิจ โดยจะมีการกำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณาสินเชื่อที่รอบคอบแต่คล่องตัวไปพร้อมกัน ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารมีโอกาสได้ลูกค้าสินเชื่อรายย่อย หรือ Post Finance ของโครงการที่ธนาคารปล่อยกู้ตามมาด้วยเช่นกัน
ด้านที่ 3. Management Solution หรือ การบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพด้วยต้นทุนต่ำ ปฏิรูประบบการทำงานภายในของธนาคารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานรองรับการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น ผ่านแนวทางหลัก ได้แก่ พัฒนาระบบ IT เพื่อรองรับสภาวะการแข่งขันที่สูงขึ้น อาทิ ระบบ CBS/ระบบ e-Payment / Internet Banking และจัดทำระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยบัตรรูปแบบใหม่ และการพัฒนาองค์กรเพื่อนำไปสู่ความยั่งยืน ด้วยการพัฒนากระบวนงานภายในให้รวดเร็วขึ้น (Process Improvement) พัฒนาบุคลากร (HRD & HRM Focus) และพัฒนานวัตกรรม (Innovation Driven)
จากแนวคิดในการดำเนินงานทั้ง 3 ด้านข้างต้นเป้าหมายระยะยาว ภายใต้การบริหารองค์กรอีก 4 ปีข้างหน้า ธอส.จะยังสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมีส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) เป็น 1 ใน 3 ของสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งระบบ มีสินเชื่อรวม 1.15 ล้านล้านบาท สินทรัพย์รวม 1.2 ล้านล้านบาท
กรรมการผู้จัดการ ธอส.ยังกล่าวถึงผลการดำเนินงาน ธอส.ล่าสุด ณ วันที่ 30 เมษายน 2559 ว่าธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ทั้งสิ้น 56,085 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เป็นจำนวนเงิน 13,234 ล้านบาท อันเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล สินทรัพย์รวม 945,114 ล้านบาท สินเชื่อคงค้างรวม 889,148 ล้านบาท เงินฝากรวม 771,783 ล้านบาท
หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 51,328 ล้านบาท คิดเป็น 5.77% ของยอดสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก ณ สิ้นปี 2558 ซึ่ง NPL อยู่ที่ 5.45% ของสินเชื่อรวม อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ยังอยู่ในระดับแข็งแกร่งมากที่ 16.08% ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ 8.50% ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย สำหรับปี 2559 ธนาคารได้กำหนดเป้าสินเชื่อใหม่ไว้จำนวน 170,043 ล้านบาท โตขึ้น 8% จากปีก่อน