20 สิงหาคม 2561 : นางสาวศลิษา หาญพานิช ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสาย First และผู้บริหารสาย Segment Management ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดลูกค้ากลุ่มที่มีความมั่งคั่ง หรือกลุ่มเวลธ์ (Wealth) ในประเทศไทย ที่มีสินทรัพย์ตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป มีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีจำนวนลูกค้าอยู่ประมาณ 700,000 คน โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) อยู่ที่ประมาณ 15 ล้านล้านบาท คิดเป็นการเติบโตกว่า 6%
สำหรับฐานลูกค้า SCB Wealth ปัจจุบันมีจำนวนกว่า 200,000 ราย มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) อยู่ที่ 1.5 ล้านล้านบาท โดยธนาคารมองว่าธุรกิจลูกค้ากลุ่มเวลธ์ยังมีศักยภาพและโอกาสในการเติบโตอีกมาก เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้ ส่วนใหญ่ยังเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ แม้ว่าลูกค้าจะสามารถปรับพอร์ตการลงทุนให้ดีขึ้น เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ตนรับได้
ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากข้อจำกัดด้านเวลาในการบริหารสินทรัพย์ และการเข้าถึงแหล่งข้อมูล เพื่อประกอบการตัดสินใจด้านการลงทุน บางส่วนยังมีความรู้ความเข้าใจที่ไม่ครอบคลุม นี่จึงเป็นโอกาสอันดีที่ธนาคารจะนำเสนอบริการด้านการบริหารความมั่งคั่งแบบครบวงจร (Wealth Management) เพื่อช่วยให้ลูกค้า SCB Wealth ของเราหันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนมากขึ้น รวมถึงต่อยอดสินทรัพย์ให้เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น
ล่าสุดธนาคาร ได้พัฒนาเอสซีบี เวลธ์ แพลตฟอร์ม (SCB Wealth Platform) ขึ้น เพื่อบุกตลาดลูกค้ากลุ่มเวลธ์ ซึ่งครอบคลุม SCB PRIVATE BANKING, SCB FIRST และ SCB PRIME ผ่าน 3 กลยุทธ์แกนหลักอันเป็นหัวใจสู่ความสำเร็จ ได้แก่ 1) SCB Investment Center มิติใหม่แห่งศูนย์บริหารความมั่งคั่ง 2) ทีมที่ปรึกษาทางการเงิน การลงทุนระดับมืออาชีพ (CIO office & Wealth Personal Banker)
3) Wealth Tech ดิจิทัลเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมา เพื่อช่วยเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการบริหารความมั่งคั่งส่วนบุคคล รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนที่หลากหลายและน่าสนใจผ่านแพลตฟอร์ม Open Architecture ที่คัดสรรเป็นพิเศษให้ลูกค้าได้เลือกลงทุนพร้อมผลตอบแทนที่ช่วยเพิ่มความมั่งคั่ง ตอกย้ำบทบาทสำคัญของธนาคารในฐานะ “คู่คิดทางการเงิน” (Trusted Partner)
SCB Wealth Platform ครอบคลุมลูกค้า 3 กลุ่ม ได้แก่
* SCB Private Banking – ลูกค้าที่มีสินทรัพย์เพื่อการลงทุนตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไปโดยปัจจุบันมีลูกค้าอยู่ประมาณ 10,000 ราย และมี AUM อยู่ที่ 7.5 แสนล้านบาท
* SCB FIRST – ลูกค้าที่มีสินทรัพย์เพื่อการลงทุนตั้งแต่ 10 – 50 ล้านบาท โดยขณะนี้มีลูกค้าราว 50,000 ราย และมี AUM อยู่ที่ 4 แสนล้านบาท
* SCB PRIME – ลูกค้าที่มีสินทรัพย์เพื่อการลงทุนตั้งแต่ 2 – 10 ล้านบาท หรือกลุ่มลูกค้า mass affluent ปัจจุบันมีลูกค้ากลุ่มนี้ราว 200,000 ราย และมี AUM อยู่ที่ 4 แสนล้านบาท
“หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของไทยพาณิชย์ ภายใต้ยุทธศาสตร์ “กลับหัวตีลังกา” (Going Upside Down) คือ การขยายฐานลูกค้ากลุ่มเวลธ์ให้เติบโตไปพร้อมกับก้าวใหม่ของธนาคาร มุ่งมั่นพัฒนาในด้านต่างๆ ทั้งนวัตกรรมเทคโนโลยี การพัฒนาบุคลากรระดับมืออาชีพ และบริการ เพื่อเปลี่ยนประสบการณ์ใหม่ด้านการบริหารความมั่งคั่งที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า” นางสาวศลิษา กล่าวเสริม