16 สิงหาคม 2561 : บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เดินหน้ากิจกรรมเพื่อสังคมต่อเนื่อง ภายใต้ธีม ปันความรู้และโอกาสสู่เด็กไทย ต่อยอดไปกับโครงการ “อลิอันซ์ จูเนียร์ ฟุตบอล แคมป์ 2018” ภายใต้แนวคิด “อยากได้คนไม่กลัวแพ้” ด้วยการเพิ่มโอกาสการพัฒนากีฬาฟุตบอลในกลุ่มเยาวชนทั่วไปด้วยการพัฒนาปัจจัยพื้นฐานของการเล่นฟุตบอลกับ โครงการ “อลิอันซ์ อยุธยา สานฝันปันสนามฟุตบอลให้น้อง” ใน 5 จังหวัด ตามเขตการคัดเลือกเยาวชนควบคู่กันไปด้วย โดยใช้งบประมาณปรับปรุง จังหวัดละ 500,000 บาท รวม 2,500,000 บาท พร้อมบริจาคอุปกรณ์กีฬาฟุตบอล ให้โรงเรียนและชุมชนได้ใช้ประโยชน์ต่อไป

ภายใต้แนวคิด ปันความรู้และโอกาสสู่เด็กไทยมากว่า 10 ปี โครงการ “อลิอันซ์ จูเนียร์ ฟุตบอล แคมป์ 2018” ถือเป็นโครงการหนึ่งที่ให้ความรู้กับเด็กไทยในเรื่องของการเล่นฟุตบอลและเปิดประสบการณ์ฟุตบอลกับสโมสรบาเยิร์น มิวนิค ยอดทีมชั้นนำของโลก โดยปีนี้ ภายใต้แนวคิด “อยากได้คนไม่กลัวแพ้” เปิดโอกาสกว้างแก่เยาวชนอายุระหว่าง 14-16 ปี จากทั่วประเทศ โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องสังกัดทีมโรงเรียนหรือทีมสโมสรใดๆ เข้ามาคัดเลือก

เพื่อเป็นสุดยอดนักเตะตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมโครงการ “อลิอันซ์ จูเนียร์ ฟุตบอล แคมป์ 2018” โดยภายในแคมป์ เยาวชนจะได้ฝึกทักษะฟุตบอล กับผู้ฝึกสอนทีมเยาวชนสโมสรบาเยิร์น มิวนิค กระทบไหล่นักเตะดาวดังของสโมสร ทัวร์สนามอลิอันซ์ อารีน่า แบบเจาะลึก พร้อมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมร่วมกับเยาวชนจากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ณ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี

นอกจากนั้น อลิอันซ์ อยุธยา ยังได้จัดกิจกรรมเพื่อสังคมควบคู่ไปกับโครงการฯ นี้ ด้วยการเพิ่มโอกาสการพัฒนากีฬาฟุตบอลในกลุ่มเยาวชนทั่วไปผ่านการพัฒนาปัจจัยพื้นฐานของการเล่นฟุตบอลกับโครงการ “อลิอันซ์ อยุธยา สานฝันปันสนามฟุตบอลให้น้อง ปี 4” ใน 5 จังหวัด ตามเขตการแข่งขัน โดยใช้งบประมาณปรับปรุง จังหวัดละ 500,000 บาท รวม 2,500,000 บาท พร้อมบริจาคอุปกรณ์กีฬาฟุตบอลให้กับโรงเรียนและชุมชนได้ใช้ประโยชน์ต่อไป

โดยล่าสุด ได้ร่วมเข้าปรับปรุงสนามฟุตบอลของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้านนทบุรี ตำบลคลองพระอุดม อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลที่นักเรียนและเยาวชนในชุมชนได้ใช้ประโยชน์ เป็นสนามศูนย์กลางการจัดแข่งขันกีฬา และออกกำลังกายของชุมชน อีกทั้งยังมีทีมฟุตบอลฝึกซ้อมที่โรงเรียนแห่งนี้ด้วย

โดยก่อนหน้าที่จะมีการปรับปรุง สนามไม่เรียบก่อให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างการฝึกซ้อม มีหญ้าเป็นหย่อมๆ มีระบบน้ำที่ไม่สมบูรณ์ บริษัทฯจึง ได้ดำเนินการ ปรับระดับพื้นสนาม ติดตั้งระบบน้ำพร้อมสปริงเกอร์ 6 ชุด ปรับปรุงและบำรุงดิน ปูหญ้า พื้นที่ 6,900 ตารางเมตร ปรับปรุงประตูฟุตบอล และติดตั้งป้ายบอกคะแนน เพื่อให้สมบูรณ์พร้อมให้โรงเรียนและชุมชนได้ใช้ประโยชน์และฝึกซ้อมฟุตบอลต่อไป

สำหรับหลักเกณฑ์การคัดเลือกโรงเรียนที่จะร่วมในโครงการ มีดังนี้
1. เป็นโรงเรียนที่เป็นศูนย์กลางของชุมชน
2. ตั้งอยู่ในภูมิภาคและจังหวัดดังต่อไปนี้
▪ ภาคเหนือ : จ.แพร่
▪ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.อำนาจเจริญ
▪ ภาคตะวันออก : จ.ระยอง
▪ ภาคใต้ : จ.ตรัง
▪ ภาคกลาง : จ.นนทบุรี
3. มีแหล่งน้ำเพียงพอ และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการบำรุงรักษาสนามต่อไปในอนาคต
4. มีผู้ดูแลหรือบริหารจัดการสนามฟุตบอลในระยะยาว
5. มีผู้ใช้สนามจริง เช่น ทีมฟุตบอลอะคาเดมี่ ชมรมฟุตบอล เป็นที่จัดแข่งขัน ฝึกซ้อมกีฬาของชุมชน
6. เข้าร่วมได้ทั้งโรงเรียนระดับประถมและมัธยม