WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันอังคาร ที่ 17 กันยายน 2567 ติดต่อเรา
นำสินประกันภัยหันรับประกันรถใหญ่ เจาะตลาดโลจิสติกส์ครบวงจร

นำสินประกันภัย ปลื้มผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง เผยรายได้เบี้ยประกันภัยปี 2558 รวมทั้งสิ้น 2,005.64 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้วถึง 16.86% ประกาศปี 2559 เดินหน้าขยายงานตลาดรถใหญ่ คุ้มครองธุรกิจของผู้ประกอบการโลจิสติกส์อย่างครบวงจร รองรับการที่ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางธุรกิจโลจิสติกส์ของอาเซียน ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับรวม 2,500 ล้านบาท และจะผลักดันการดำเนินงานตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปให้ขยายตัวเติบโตได้ปีละ 10-15% เป็นอย่างน้อย

IMG_7496

นายสมบุญ ฟูศรีบุญ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท นำสินประกันภัย จำกัด (มหาชน) แถลงผลการดำเนินงานและทิศทางการดำเนินธุรกิจประจำปี 2559 โดยกล่าวว่าในปี 2559 นี้ตั้งเป้าผลิตเบี้ยประกัน 2,500 ล้านบาท ซึ่งไตรมาสแรกผลิตผลงานได้แล้ว 558.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 66.05 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 13.42% และได้แบ่งสัดส่วนเบี้ยประกันภัยระหว่าง Motor และ Non Motor อยู่ที่ 75 ต่อ 25

ท้้งนี้ ปี 2559 เป็นต้นไปมีนโยบายที่จะเติมเต็มและพัฒนาธุรกิจประกันภัยรถใหญ่ ให้ครอบคลุมความเสี่ยงภัยให้กับผู้ประกอบการขนส่งในทุกกรณีที่ความเสี่ยงภัยนั้นอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการดำเนินธุรกิจที่อาจทำให้ถึงกับต้องปิดกิจการได้ โดยบริษัทได้จัดทำแพ็คเกจประกันภัยสำหรับกลุ่มรถบรรทุกที่ออกแบบความคุ้มครองไว้อย่างครบวงจร กล่าวคือนอกจากจะเป็นการรับประกันภัยเฉพาะการประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับและภาคสมัครใจ ไม่ว่าจะทำประกันภัยประเภท 1 หรือประเภท 3 แล้วก็ตาม

ผู้เอาประกันภัยสามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมได้อีก 2 รูปแบบได้แก่การประกันภัยความรับผิดต่อชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอกที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการขนส่ง ซึ่งจะให้ความคุ้มครองความรับผิดส่วนเกินจากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ หรือเรียกว่า Top Up Liability Insurance โดยผู้เอาประกันภัยสามารถเลือกซื้อความคุ้มครองได้ตามความเหมาะสมสูงสุดไม่เกิน 30,000,000 บาทต่อเหตุการณ์

“ตั้งแต่ปี 2559 นี้เป็นต้นไป ได้กำหนดแผนธุรกิจไว้อย่างชัดเจนแล้วว่า บมจ.นำสินประกันภัยจะเป็นบริษัทประกันภัยที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านการประกันภัยของผู้ประกอบการขนส่งหรือโลจิสติกส์ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่อย่างครบวงจร “เพราะจากประสบการณ์ที่มีมากว่า 68 ปี จึงมั่นใจว่าทีมผู้บริหารและพนักงานจะสามารถแนะนำให้บริการรูปแบบความคุ้มครองด้วยกรมธรรม์ประเภทต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม และเหมาะสมกับผู้ประกอบการในแต่ละรายที่แตกต่างกัน” นายสมบุญ กล่าว

สำหรับในปี 2558 ที่ผ่านมาบริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับรวมโดยตรง 2,005.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ที่มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวม 1,715.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จำนวน 289.82 ล้านบาท หรือคิดเป็น 16.90 % ซึ่งสูงกว่าอุตสาหกรรมที่มีอัตราการเติบโตเพียงร้อยละ 1.90 โดยบริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 143.64 ล้านบาท จ่ายปันผลผู้ถือหุ้นหุ้นละ 9 บาท เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา

แยกเป็นเบี้ยประกันภัยรับตรงจากประกันภัยรถยนต์ 1,518.37 ล้านบาท ประกันอัคคีภัย 34.23 ล้านบาท ประกันภัยขนส่งทางทะเล 19.90 ล้านบาท ประกันภัยอุบัติเหตุและอื่นๆ อีก 433.14 ล้านบาท โดยสัดส่วนเบี้ยประกันภัยระหว่าง Motor และ Non Motor จะอยู่ที่อัตราร้อยละ 76 ต่อ 24

IMG_7483

“ผลงานในปีที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แม้จะไม่ถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้ เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ก็พอใจที่ผลประกอบการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด 5 ปีที่ผ่านมา โดยฐานะทางการเงินของบริษัทแข็งแกร่งมาก ซึ่ง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558 นำสินประกันภัยมีเงินกองทุนที่ใช้ได้ (TCA) 1,754.29 ล้านบาท และอัตราส่วนเงินกองทุนที่ใช้ได้ ต่อเงินกองทุนที่ต้องสำรองตามกฎหมาย (CAR) อยู่ที่ 767.75% หรือมากกว่าที่ คปภ.กำหนดไว้ถึง 5.48 เท่า” นายสมบุญ กล่าวเสริม

ทางด้าน นายเลิศชาย ประภาศิริรัตน์ รองกรรมการผู้อำนวยการ กล่าวเสริมด้วยว่าบริษัทยังได้พัฒนากรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจรับจ้างขนส่งสินค้า ซึ่งจะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทนที่เกิดจากความสูญเสียหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการขนส่งตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางด้วยกรมธรรม์ที่เรียกว่า กรมธรรม์ประกันภัยความรับผิดของผู้ประกอบการขนส่งหรือ Carrier Liability Insurance เพิ่มเติมจากกรมธรรม์ Top Up Liability Insurance ด้วยเช่นกัน

“ในหลายๆ เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับสินค้าที่ขนส่ง เรามักจะพบว่าวงเงินจำกัดความรับผิดที่ได้จะทำประกันภัยไว้อาจไม่เพียงพอต่อความรับผิดต่อสินค้าที่ทำการขนส่ง ผู้เอาประกันภัยหรือผู้ประกอบการควรคำนึงถึงมูลค่าของสินค้าที่ทำการขนส่งว่ามีจำนวนมากน้อยเพียงใด ซึ่งแพ็คเกจดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ประกอบการขนส่งสามารถมั่นใจว่าความเสี่ยงภัยที่ตนเองฝากไว้กับพนักงานขับรถจะได้รับความคุ้มครองอย่างเพียงพอ และไม่ทำให้ธุรกิจตนเองต้องสะดุดหยุดลงด้วยเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้น” นายเลิศชายกล่าว

ปัจจุบันรถบรรทุกส่วนใหญ่เริ่มมีการขยายความคุ้มครองการใช้รถไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ล่าสุดบริษัทได้เข้าร่วมโครงการรับประกันภัยรถข้ามแดนที่ด่าน อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งเป็นด่านแรกที่ภาคเอกชนและภาครัฐร่วมกันจัดทำโครงการรับประกันภัยรถยนต์คุ้มครองแบบประเภท 3 รวม พ.ร.บ. ซึ่งเป็นแพ็คเกจเฉพาะพื้นที่ จังหวัดเชียงราย

นายเลิศชายชี้แจงถึงการให้บริการหลังการขยายนั้น บริษัทมีสาขาอยู่ 28 แห่งทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ บุคลากรของบริษัทได้รับการฝึกฝนและเสริมสร้างทักษะความรู้อย่างเพียงพอที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เอาประกันภัย โดยเฉพาะสาขาที่อยู่ติดแนวตะเข็บชายแดนทุกสาขาสามารถเคลื่อนที่เร็วเพื่อเข้าไปช่วยเหลือผู้ขับขี่รถยนต์ในกรณีที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ด้านแนวเขตชายแดนไทย กับสปป.ลาว บริษัทมีสาขาที่สามารถรองรับได้ถึง 5 สาขาประกอบด้วย สาขาเชียงราย, สาขาอุดรธานี, สาขานครพนม, สาขามุกดาหาร และสาขาอุบลราชธานี

IMG_7490

ส่วนแนวตะเข็บชายแดนประเทศกัมพูชา มีสาขาระยอง, สาขาชลบุรี และสาขาพัทยา และเตรียมเปิดเพิ่มอีก 1 สาขา คือสาขาจังหวัดสระแก้ว หรือที่อำเภออรัญประเทศ ส่วนแนวชายแดนด้านประเทศเมียนม่าร์ ปัจจุบันบริษัทมีสาขากาญจนบุรี, สาขาพิษณุโลก และสาขานครสวรรค์ รองรับอยู่ ซึ่งบริษัทมีแผนในการเปิดสาขาที่ อำเภอแม่สอด เพื่อรองรับการบริการต่อไป

ท้ายสุดนายเลิศชายกล่าวว่า บริษัทมีนโยบายขยายฐานตัวแทนและนายหน้าเพิ่มขึ้น โดยมอบนโยบายให้ผู้จัดการสาขาทั้ง 28 แห่งเป็นผู้จัดกิจกรรมสร้างตัวแทน ขณะเดียวกันได้ตั้งหน่วยงานพัฒนาคุณภาพตัวแทนให้มีศักยภาพในการทำตลาดท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็เชื่อมั่นว่าการติดอาวุธตัวแทนจะทำให้นำสินประกันภัยบรรลุเป้าหมาย 2,500 ล้านบาทได้อย่างแน่นอน

ประกันภัย ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP