10 สิงหาคม 2561 : ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจบริการด้านการท่องเที่ยว เป็นธุรกิจที่ทำรายได้ให้ประเทศเป็นอย่างมาก และมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศให้มีอัตราการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ดังจะเห็นได้ว่าธุรกิจการบริการด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต มีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งจากข้อมูลสำนักงานสถิติจังหวัดภูเก็ตในปี 2560 การเติบโตทางเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวชี้ให้เห็นว่า มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตปีละกว่า 13 ล้านคน โดยแบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศกว่า 10 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 71.0 ของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาทั้งหมด และจำนวนนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นการเพิ่มของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น จีน รัสเซีย ออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง และเอเชียตะวันออก
โดยมีรายได้จากการท่องเที่ยวหมุนเวียนในภาคธุรกิจต่างๆ มากกว่า 300,000 ล้านบาท ซึ่งมีรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นอันดับ 1 ของทุกจังหวัดในภาคใต้
ในขณะเดียวกันประชาชน และนักท่องเที่ยวมีการสัญจรทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ส่งผลทำให้ประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทุกด้าน ซึ่งการเกิดอุบัติเหตุแต่ละครั้งนำมา ซึ่งความสูญเสียต่อชีวิต ร่างกายและทรัพย์สิน ดังเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดภูเก็ตกรณีเรือโดยสารนักท่องเที่ยวล่มที่อ่าวฉลอง จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2561 เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิตจำนวน 47 ราย เป็นที่เศร้าสลดใจของทุกคนที่ได้รับทราบข่าว
แต่เนื่องจากผู้ประกอบการท่องเที่ยว ได้ทำประกันอุบัติเหตุเดินทางสำหรับธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ไว้ รวมถึงเรือลำดังกล่าวได้ทำประกันภัยผู้โดยสารเรือ สำหรับผู้โดยสารไว้ ตามที่กฎหมายกำหนด ทำให้มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทน เพื่อเป็นการเยียวยาแก่ทายาทของนักท่องเที่ยว อันเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนรายละ 1,100,000 บาท บวกกับที่รัฐบาลช่วยเยียวยาจากกองทุนเยียวยานักท่องเที่ยวอีกจำนวน 1,000,000 บาท ทำให้มีเงินจำนวนหนึ่งที่ช่วยเยียวยาความสูญเสียของทายาทผู้สูญเสีย
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ในการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับทายาทของนักท่องเที่ยวที่เสียชีวิตทั้ง 47 ราย ได้รับรายงานจากสำนักงาน คปภ.จังหวัดภูเก็ต ว่า บริษัทประกันภัยได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนไปแล้วจำนวน 36 รายๆ ละ 1,100,000 บาท รวมเป็นเงิน 39,600,000 บาท ที่เหลืออีก 11 ราย เอกสารไม่ครบถ้วน
โดยพบว่าทายาทของผู้เสียชีวิต 6 ราย ส่งเลขที่บัญชีผิดจึงไม่สามารถโอนเงินให้ได้และอีก 5 ราย ขาดเอกสารของผู้เสียชีวิตและทายาท ซึ่งขณะนี้บริษัทประกันภัยอยู่ระหว่างการประสานข้อมูลกับทายาทของผู้เสียชีวิต เพื่อให้ยื่นเอกสารเพิ่มเติมเพื่อจะได้ดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนอย่างเร่งด่วนต่อไป
พร้อมกันนี้ คปภ. จึงจัดโครงการส่งเสริมความรู้ด้านการประกันภัย แก่ผู้ประกอบการและบุคลากรด้านการท่องเที่ยวในรูปแบบการจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับกรมธรรม์และสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัย เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2561 ณ โรงแรมเพิร์ลภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม รีสอร์ท บริษัทนำเที่ยว มัคคุเทศก์ พนักงานลูกจ้างในสถานประกอบการด้านการท่องเที่ยวที่ได้เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้กว่า 200 คน ตระหนักถึงความสำคัญและใช้ประโยชน์จากระบบประกันภัย
โดยแบ่งการอบรมให้ความรู้ออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเช้าเป็นการให้ความรู้ภายใต้หัวข้อ “ความรู้เรื่องการประกันรถยนต์และการประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับการจัดการความเสี่ยงของนักท่องเที่ยว” โดยมี นางสาวทัศนวรรณ เชาว์ดำรงสกุล หัวหน้ากลุ่มกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัยสำหรับบุคคล สำนักงาน คปภ. และนางสาวนัฏพร กีชานนท์ ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัย สำนักงาน คปภ. เป็นผู้บรรยายให้ความรู้
ส่วนในช่วงบ่าย เปิดเป็นเวทีเสวนาเกี่ยวกับปัญหาการจัดการความเสี่ยงของนักท่องเที่ยว และความรับผิดชอบของผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีวิทยากรจาก สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 ชมรมประกันวินาศภัยภูเก็ต ชมรมผู้ประกอบการท่องเที่ยวภูเก็ตและ สำนักงาน คปภ. จังหวัดภูเก็ต