23 กรกฎาคม 2561 : โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่คร่าชีวิตนักท่องเที่ยวจีนไปเกือบ 50 ชีวิต ซึ่งยังไม่ได้นับรวมผู้ที่สูญหายอีกหลายสิบชีวิต จากกรณีเรือฟินิกส์ล้มที่จังหวัดภูเก็ต โศกนาฏกรรมครั้งนี้นอกจากจะสูญเสียเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวดังกล่าวแล้ว ในส่วนของประเทศไทยเอง ก็ได้รับความเสียหายไม่น้อย หากนักท่องเที่ยวจีนไม่กลับมาเที่ยวเมืองไทย ตราบใดที่การบริหารจัดการเรื่องความปลอดภัยไม่ชัดเจน ไม่สามารถดึงความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ หายนะจะเกิดกับการเติบโตทางเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ทันที
หากวิเคราะห์ลงรายละเอียดกันสักนิด ว่าเหตุการณ์เรือล่มสร้างความหายนะให้กับเศษฐกิจไทยได้อย่างไร ย้อนกลับไปช่วงหลายปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีพระเอกหลัก คือ การส่งออก และการท่องเที่ยว และเราจะข้ามเรื่องภาคการส่งออกไปก่อน เพราะการส่งออกไทยในช่วงครึ่งปีแรกเติบโตดี โตถึง 11% ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดทั้งปี 2561 ส่งออกจะโตได้ถึง8.8% ดูรวมๆแล้วก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร ทำให้มีการประเมินจีดีพี ทั้งปี 2561 อยู่ที่ 4.5% เพิ่มขึ้นจากมุมมองเดิมที่ 4.0% ขณะนั้นยังไม่มีเหตุการณ์เรือล้ม
แล้วเรือล้มเกี่ยวอย่างไร ข้อนี้ละคือจุดสำคัญ เพราะการท่องเที่ยวคือพระเอกหลักอีกตัวที่ช่วยผลักดีนจีดีพีให้เติบโตขึ้น ข้อมูลจากสถิติการรวบรวมโดยกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาในปี 2560 พบว่า มีนักท่องเที่ยวต่างขาติรวม 35,381,210คน เดินทางมาประเทศไทย ก่อให้เกิดรายได้การท่องเที่ยวถึง 1,824,024 ล้านบาท
นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวประเทศไทยอันดับหนึ่ง คือ นักท่องเที่ยวจากประเทศจีนจำนวน 9,805,753คน และเป็นชาติที่สร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยเป็นอันดับหนึ่งด้วย
การที่เรือฟินิกส์ล้มที่จังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ สายการบินของจีนได้มีการสั่งระงับเที่ยวบินที่จะเดินทางมายังภูเก็ตเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าเส้นทางการบินอื่นในไทยจะไม่มีการสั่งระงับก็ตาม แต่แค่เส้นทางเดียว โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ตด้วยแล้ว ก็ทำให้ไทยเสียรายได้จากการท่องเที่ยวพอสมควร จนนักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารแสตนดาร์ดชาร์เตอร์ ออกมามอง จีดีพีปีนี้แค่ 4.3% เท่านั้น ซึ่งมองในอัตราที่ต่ำกว่านักเศรษฐศาสตร์หลายสำนัก
ด้านนักเศรษฐศาตร์ธนาคารแสตนดาร์ดชาร์เตอร์ มองว่า หากรัฐบาลไทยจัดการบริหารความปลอดภัยไม่ได้ จนไม่สามารถถึงความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวได้ จีดีพี 4.3% ที่มองไว้อาจจะปรับลดลงมาได้อีก ตราบใดที่เศรษฐกิจไทยยังขับเคลื่อนด้วยภาคส่งออกและการท่องเที่ยวหลัก
ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลควรเร่งทำคือ เรียกความเชื่อมั่นจากนักท่องเที่ยวให้กับมาเร็วที่สุด และก่อนเดือนกันยายน 2561 ภาครัฐจะต้องชัดเจนในเรื่องของความปลอดภัยในการท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวจีนจะเลือกมาเที่ยวเมืองไทยแค่สองช่วง คือ ช่วงตรุษจีน และช่วงโลซีซั่นของไทยในเดือนตุลาคม สาเหตุที่นักท่องเที่ยวจีนมาใช่วงเดือนตุลาคมกันมาก เพราะวันที่ 1-7 ตุลาคม 2561เป็นวันชาติจีน ชาวจีนจะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศต่างๆ และประเทศไทย คือเป้าหมายหลักที่ชาวจีนจะเลือกเดินทางมา
เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะถึงวันชาติจีน ทางการไทยควรที่จะต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากนักท่องเที่ยวจีนกลับมาเหมือนเดิม ไม่อย่างนั้น จีดีพีไทยปีนี้ หืดขึ้นคือแน่นอน