20 กรกฎาคม 2561 : นายรัฐพล กิติศักดิ์ไชยกุล กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความร่วมมือกับนิด้า โบรกเกอร์ เว็บไซด์ Askpauls.com เพื่อนคู่คิดประกันภัยออนไลน์ ถือเป็นการขยายช่องทางการตลาดที่สอดคล้องกับทิศทางรุกตลาดออนไลน์ของบริษัทฯ ในปัจจุบัน
ซึ่งบริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถเติบโตได้อีกมาก เพราะผู้บริโภคมีความรู้และเห็นความสำคัญของการประกันภัยมากขึ้น คำถามหรือข้อสงสัยในเรื่องประกันภัยสามารถหาจากเว็บไซด์ได้ และตัดสินใจซื้อประกันภัยทางออนไลน์ได้ง่ายขึ้น สามารถซื้อเมื่อไหร่ก็ได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ดังนั้น เมื่อบริษัทฯ พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับสภาพตลาด หรือความต้องการของผู้บริโภค มีเบี้ยประกันภัยสอดคล้องกับความคุ้มครองที่เหมาะสม มีบริการหลังการขายที่ดีมีมาตรฐาน เราเชื่อว่าจะสามารถเพิ่มเบี้ยประกันจากช่องทางนี้ได้อย่างต่อเนื่อง
“เอ็ม เอส ไอ จี มีเป้าหมายทางการตลาดที่ชัดเจน คือ ต้องการเป็นผู้นำด้านดิจิทัลในธุรกิจประกันภัย นำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริการ และซื้อขายออนไลน์ ซึ่งบริษัทฯ ลงทุนไปมากกว่า 150 ล้านบาท ปรับเปลี่ยนซอฟแวร์ ฮาร์ดแวร์ และระบบ E-Commerce, Portal, Application และเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้า และยังปรับปรุงองค์กรให้พนักงานให้มีความรู้ และคิดแบบดิจิทัลมากขึ้น ที่ผ่านมาเราประสบความสำเร็จกับประกันการเดินทางในระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่ง www.askpauls.com ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทาง ที่ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในการพัฒนาการขายไปด้วยกัน”
นายรัฐพล กล่าวอีกว่า สำหรับนโยบายด้านการขยายตลาดในอนาคต เอ็ม เอส ไอ จี ยินดีที่จะจับมือกับพันธมิตรทุกราย แต่มีเกณฑ์การพิจารณา คือ แผนการดำเนินงานในการพัฒนาด้านธุรกิจประกันภัยดิจิทัล มีเป้าหมายและทิศทางการทำตลาดสอดคล้องกับเอ็ม เอส ไอ จี นอกจากนี้ จะพิจารณาถึงจุดแข็งจุดอ่อนของพันธมิตร เพื่อพัฒนาเป้าหมายร่วมกัน รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมให้อีกด้วย
สำหรับเป้าหมายการดำเนินงานในปีนี้ ตั้งเป้าเบี้ยประกันรับปีนี้ไว้ที่ 4,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 5.5-5.6% ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรก 2561 บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับรวมแล้ว 1,975 ล้านบาท เติบโต 4% ซึ่งประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล และประกันภัยการเดินทางขยายตัวสูงสุด มีเบี้ยรับกว่า 100 ล้านบาท
ทางด้าน นายนิคม เสาร์แก้ว กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิด้า อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด เปิดเผยว่า เว็บไซด์ Askpauls.com เพื่อนคู่คิดประกันภัยออนไลน์ ถือเป็นความร่วมมือระหว่างนิด้า โบรกเกอร์ และ บริษัท เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่ต้องการตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ ที่เน้นความสะดวกรวดเร็วในการทำธุรกรรม รวมถึงตอบโจทย์เทรนด์การตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปสู่ออนไลน์แพลตฟอร์มมากขึ้น
เนื่องจากพบว่า ผู้บริโภคมีความรู้และเห็นความสำคัญของการประกันภัยมากขึ้น ต้องการซื้อประกันภัยที่ง่าย และรวดเร็ว จึงเป็นที่มาของเว็บไซด์ Askpauls.com
“จุดแข็งของนิด้า โบรกเกอร์ คือ เรามีประสบการณ์ด้านการประกันภัยในช่องทาง traditional มาก่อน ทำให้เราสามารถนำมาต่อยอดทำตลาดออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว และถ้าวันนี้เราไม่ทำ คนอื่นก็ต้องทำ เราเลยปั้น เว็บไซด์ Askpauls.com เองเลยดีกว่า ผนวกกับเรามีพันธมิตรทางธุรกิจที่ร่วมงานกันมายาวนานอย่างเอ็ม เอส ไอ จี ที่มีมาตรฐานการบริการในระดับแนวหน้า มีความรู้และความเชี่ยวชาญทางด้าน Digital Marketing เว็บไซต์นี้จึงเป็นการผสมผสานจุดแข็งของพันธมิตรทั้งสองบริษัทอย่างลงตัว”
นายนิคม กล่าวอีกว่า เว็บไซด์ Askpauls.com ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย ตรงไปตรงมา ให้ข้อมูลในเรื่องการประกันภัยเบื้องต้นที่ลูกค้าควรทราบ ทั้งในเรื่องของความคุ้มครองด้านการประกันภัย รวมถึงเบี้ยประกันภัยที่ถูกคัดสรรมาให้ในราคาที่เหมาะสม พร้อมทั้งโปรโมชั่นที่คุ้มค่าที่สุด เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในยุคดิจิทัล เว็บไซต์ Akpauls.com เปิดทดลองตลาดตั้งแต่ต้นปี 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก 6 เดือนที่ผ่านมา
“เราให้ความคุ้มครองกับผู้เอาประกันภัยไปแล้วมากกว่า 3,200 ราย หรือมากกว่า 2,000 กรมธรรม์ ส่วนมากเป็นกรมธรรม์ประกันภัยการเดินทาง สำหรับเป้าหมายเราแบ่งเป็น 3 ระยะ ภายในสิ้นปีนี้ ตั้งเป้าเบี้ยประกันไว้ที่ 15 ล้านบาท ในขณะที่เป้าหมายระยะกลางภายใน 3 ปี ต้องมีเบี้ยประกันที่ 50 ล้านบาท และภายใน 5 ปี มีเบี้ยผ่าน Askpauls.com ที่ 100 ล้านบาท ในครึ่งปีหลัง
บริษัทฯ มีเป้าหมายจะบุกตลาดรถยนต์ออนไลน์อย่างจริงจัง หลังจากเราประสบความสำเร็จจากการขายประกันการเดินทาง นอกจากนั้น Askpauls ยังตั้งใจจะขยายตลาดไปยังต่างจังหวัด โดยมองว่า Digital Marketing จะเป็นช่องทางหลักในการช่วยขยายตลาดของนิด้าในอนาคต เนื่องจากเราเชื่อว่าผู้บริโภคจะหันมาซื้อออนไลน์มากขึ้นในต่างจังหวัด เพราะมี internet และใช้สมาร์ทโฟนกันมากขึ้น 
