หลักทรัพย์บัวหลวง เปิดตัว “บลจ.บางกอกแคปปิตอล (BCAP)” น้องใหม่ในเครือ เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันธุรกิจจัดการกองทุน ตั้งเป้าผู้นำเสนอนวัตกรรมในผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ที่หลากหลาย ตอบโจทย์ผู้ลงทุน ประเดิมออกกองทุน BCAP MSCI Thailand ETF กองแรกของไทยที่ใช้ดัชนีของ MSCI โดยเป็นทางเลือกใหม่ในการลงทุนหุ้นไทยได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว
นางเมธ์วดี ประเสริฐสินธนา กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บางกอกแคปปิตอล จำกัด เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพและบมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง เปิดตัวบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บางกอกแคปปิตอล (BCAP) อย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจจัดการกองทุนภายใต้กลุ่มของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใน BCAP สัดส่วน 99.89% ผ่านหลักทรัพย์ บัวหลวง โดยมี นางเมธ์วดี ประเสริฐสินธนา อดีตผู้บริหารสายงานวาณิชธนกิจ หลักทรัพย์ บัวหลวง ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ BCAP ซึ่งได้จัดตั้งบริษัท เมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 และเริ่มประกอบธุรกิจตั้งแต่ต้นปี 2558 ภายใต้ใบอนุญาตจัดการกองทุนอย่างเต็มรูปแบบ
ทั้งนี้ หลักทรัพย์บัวหลวง มีประสบการณ์ด้านการจัดการกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมาอย่างยาวนาน โดยเริ่มดำเนินธุรกิจจัดการกองทุนมาตั้งแต่ปี 2544 ในสายงานบริหารกองทุนส่วนบุคคลและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงพร้อมที่จะขยายธุรกิจเพิ่มขึ้นในส่วนของกองทุนรวม เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ จึงจัดตั้ง BCAP และโอนย้ายธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไปยังบริษัทใหม่
ปัจจุบัน BCAP มี ดร.ธนาวุฒิ พรโรจนางกูร เป็นหัวหน้าสายงานการจัดการกองทุน (Chief Investment Officer) จบปริญญาเอกด้านการเงินจากColumbia University ที่ New York ประเทศสหรัฐอเมริกา มีประสบการณ์ในวงการธุรกิจการเงินและการบริหารเงินลงทุนกว่า 14 ปี โดยเฉพาะการบริหารเงินลงทุนให้กับนักลงทุนสถาบันและบริษัทจัดการกองทุนที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศ เคยดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่การลงทุนของธนาคารโลก (World Bank) ที่กรุง Washington DC และผู้จัดการกองทุนและเฮดจ์ฟันที่บริษัท Lehman Brothers และ Neuberger Berman ที่ New York รวมทั้งเคยดำรงตำแหน่ง รองผู้จัดการอาวุโสด้านอนุพันธ์ทางการเงินที่ธนาคารกรุงเทพก่อนเข้ารับตำแหน่ง CIO ที่ BCAP ซึ่งเป็นหนึ่งในการสนับสนุนด้านบุคลากรที่สำคัญจากธนาคารกรุงเทพ
นางเมธ์วดีเปิดเผยต่อว่า สำหรับกลยุทธ์ในการบริหารจัดการ BCAP จะนำประสบการณ์ของคณะผู้บริหารทั้งหมดมาพัฒนาศักยภาพในการดำเนินธุรกิจที่สำคัญในสองด้าน โดยด้านแรก คือ การนำมาตรฐานการบริหารงานธุรกิจจัดการกองทุนที่เป็นสากลมาประยุกต์ใช้ โดยมุ่งเน้นการพัฒนากระบวนการตัดสินใจและการบริหารความเสี่ยงในการลงทุน (Investment and Risk Management Process) ของ BCAP ให้เป็นรูปธรรมและมีความชัดเจนคงที่ ไม่เปลี่ยนไปตามการโยกย้ายงานของผู้จัดการกองทุนที่มีอยู่เสมอ นักลงทุนทั้งสถาบันและบุคคลสามารถเข้าใจในหลักการตัดสินใจการลงทุนของ BCAP และมีความเชื่อมั่นในการลงทุนที่ไว้วางใจกับเราได้อย่างเต็มที่ ส่วนด้านที่สอง คือ การลงทุนอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาระบบงานที่เป็น Best Practice ระบบสารสนเทศในการบริหารการลงทุน ที่ได้มาตรฐานชั้นนำระดับโลก และทีมบุคลากรในการปฏิบัติงานที่มีคุณภาพสูงสุด
ส่วนกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ BCAP มุ่งมั่นที่จะพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่โดดเด่นและแตกต่างจากบลจ. อื่นๆ ในอุตสาหกรรม โดยมุ่งเน้นการตอบโจทย์ต่างๆ ของนักลงทุนให้ดีขึ้นภายใต้ BCAP Better Investment Approach: be informed, be innovative, be global โดยส่วนแรก be informed ซึ่งนักลงทุนต้องเริ่มด้วยความเข้าใจในวัตถุประสงค์ของการลงทุนความเสี่ยงที่รับได้ และมีข้อมูลในการลงทุนที่ถูกต้องครบถ้วน
ส่วนที่สอง be innovative การสรรหานวัตกรรมในผลิตภัณท์การลงทุนที่จะตอบสนองวัตถุประสงค์ของการลงทุนได้ดีกว่า โดยผลิตภัณฑ์ต้องมีทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลายทั้งในประเภทสินทรัพย์และกลยุทธ์ รวมถึงส่วนที่สาม be global เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสและกระจายความเสี่ยงในการลงทุนอย่างแท้จริง ด้วยความตระหนักที่ว่าโอกาสการลงทุนในประเทศไทยมีมูลค่าเพียง 0.5% ของโอกาสการลงทุนทั่วโลก
“ด้วยหลักการข้างต้น BCAP มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการนำเสนอนวัตกรรมในผลิตภัณฑ์การลงทุน โดยเน้นการนำเสนอทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลายขึ้นในทุกๆด้าน เช่น ประเภทสินทรัพย์ ภูมิภาคในการลงทุน และประเภทกลยุทธ์ ซึ่งจะช่วยนักลงทุนกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในหลายมิติ ดังนั้น BCAP มีความเชื่อมั่นว่าผลิตภัณท์การลงทุนที่จะนำเสนอจะมีความแตกต่างจาก บลจ.อื่นๆ ดังนั้น ในภาพรวมของกลุ่มธนาคารกรุงเทพ BCAP จะเป็นกำลังสำคัญในการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจ ด้วยการนำเสนอทางเลือกผลิตภัณท์การลงทุนใหม่ และยังเป็นพลังสำคัญของกลุ่มธนาคารกรุงเทพ ที่จะช่วยผลักดันการพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนของอุตสาหกรรมจัดการกองทุนโดยรวมในประเทศไทย” นางเมธ์วดีกล่าว
เป้าหมายการเติบโตของธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ที่ BCAP บริหารจะยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทจะนำรายได้จากการดำเนินธุรกิจมาลงทุนเพิ่มในการพัฒนาความพร้อมในการบริหารผลิตภัณฑ์ที่จะพัฒนาขึ้นในอนาคต ซึ่งมีแผนว่าใน 3 ปีข้างหน้าจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ครอบคลุมสำหรับกองทุนส่วนบุคคล กองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนรวม ซึ่งคาดว่านักลงทุนจะเริ่มเห็นกองทุนใหม่ของ BCAP อย่างน้อย 2-3 กองทุนภายในสิ้นปีนี้
นางเมธ์วดี กล่าวต่อว่า ในเดือนพ.ค.นี้ BCAP จะเปิดตัวกองทุนรวม BCAP MSCI Thailand ETF เสนอขายผ่านสาขาของธนาคารกรุงเทพและหลักทรัพย์บัวหลวง ซึ่งเป็นกองทุน ETF นักลงทุนสามารถซื้อขายระหว่างวันในตลาดหลักทรัพย์ โดยกองทุนมีเป้าหมายการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนตามดัชนีอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งดัชนีที่กองทุนใช้เป็นเกณฑ์มาตรฐาน คือ ดัชนี MSCI Thailand ex foreign board ที่ทาง MSCI Inc. ซึ่งเป็นบริษัทที่สร้างและบริหารดัชนีที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก พัฒนาเฉพาะให้ BCAP โดยดัชนีดังกล่าวครอบคลุมหุ้นขนาดใหญ่ของบริษัทจดทะเบียนในประเทศที่มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Capitalization) รวมกว่า 85% ของตลาด อีกทั้งมีสภาพคล่องสูง และเป็นบริษัทผู้นำธุรกิจในทุกอุตสาหกรรมในประเทศ
อย่างไรก็ตามการนำเสนอกองทุน BCAP MSCI Thailand ETF เป็นกองทุนรวมกองแรกสำหรับนักลงทุนทั่วไป เพราะต้องการตอบโจทย์ที่เห็นว่ามีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ สำหรับนักลงทุนทั่วไปที่ต้องการออมเงินระยะยาวในหุ้นในประเทศ แต่ไม่มีเวลา ประสบการณ์ หรือไม่ต้องการความกังวล ที่จะเลือกหุ้นหรือเลือกกองทุนเพื่อใช้ในการออมนี้ ซึ่งกองทุนดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการออมเงินระยะยาวในหุ้น เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการจัดการกองทุนต่ำ นอกจากนี้นักลงทุนยังสามารถทยอยซื้อและถือครองกองทุนนี้ในระยะยาวได้ด้วยความมั่นใจในดัชนีของ MSCI โดยไม่ต้องกังวลและใช้เวลาในการติดตามผลการบริหารกองทุนของผู้จัดการกองทุน ที่มีการหมุนเวียนเปลี่ยนงานระหว่าง บลจ. และ กองทุนอยู่เสมอ