TOG โชว์กำไรไตรมาสแรกทะลุเป้าโต 73% จากยอดขายรวม 523.32 ล้านบาท จากมูลค่าการขายเลนส์พรีเมี่ยมโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐอเมริกา เผยไตรมาส 4 โรงงานใหม่พร้อมเดินเครื่องผลิต เตรียมรุกตลาดเออีซีเพิ่ม หลังประสบความสำเร็จในตลาดยุโรป อเมริกา ออสเตรีเลีย และเอเชียแปซิฟิก
นายธรณ์ ประจักษ์ธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยออพติคอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TOG ผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายเลนส์สายตาพลาสติก และผู้ผลิตเลนส์อิสระในระดับสากล เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ ว่ายังคงเดินตามแผนงานที่วางไว้ โดยเฉพาะแผนการลงทุน เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเลนส์เฉพาะบุคคลหรือเลนส์สั่งฝนพิเศษ (Prescription Lens หรือ Rx Lens) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรที่ดี จำนวน 300-350 ล้านบาท และงบลงทุนปกติ 150 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัทฯ ที่มีอัตราเติบโตต่อเนื่องกว่า 10% ทุกปี พร้อมพัฒนานวัตกรรมในการผลิตเลนส์สายตาให้สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญคือการพัฒนาเลนส์ชีวภาพที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อีกทางหนึ่ง
ปัจจุบัน TOG มีสัดส่วนตลาดต่างประเทศอยู่ 95% และในประเทศะ 5% โดยส่วนใหญ่เป็นประเทศในแถบยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อเมริกา และเอเชียแปซิฟิค สำหรับการขยายตลาดเออีซี นั้น บริษัทฯ ขายสินค้าผ่านบริษัทร่วมทุน 3 ประเทศ โดย TOG เข้าถือหุ้นในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 33% คือ มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม พร้อมทั้งกำลังศึกษา และเจรจาพันธมิตรเพิ่มเติมใน ประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และ เมียนมาร์ โดยสินค้าหลัก คือเลนส์สายตาเฉพาะบุคคล ซึ่งจะเป็นไลน์การผลิตหลักสำหรับโรงงานแห่งใหม่ ที่มีกำลังการผลิต กว่า 1 ล้านชิ้นต่อปี ซึ่งจะเดินเครื่องผลิตได้ในไตรมาส 4 ปี 2559 ทั้งนี้ปัจจุบัน TOG มียอดการผลิตเลนส์รวม 27 ล้านชิ้นต่อปี และคาดว่าปี 2560 กำลังการผลิตจะเพิ่มเป็น 30 ล้านชิ้นต่อไป หลังจากสามารถเดินเครื่องการผลิตได้เต็มประสิทธิภาพ
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2559 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้รวมจากการขายและบริการทั้งสิ้น 523.32 ล้านบาท สูงกว่าไตรมาสจากงวดเดียวกันของปีก่อน 58.53 ล้านบาท หรือ คิดเป็นอัตราการเติบโต 12.59 % ซึ่งเป็นผลมาจากมูลค่าการขาย “เลนส์พลาสติกมูลค่าเพิ่ม” หรือกลุ่มเลนส์พรีเมี่ยม เพิ่มสูงขึ้น โดยมีกำไรสุทธิ 75.30 ล้านบาท เพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อน 31.83 ล้านบาท หรือคิดเป็น 73.23 % ซึ่งอัตราผลกำไรที่เติบโตสูงขึ้นมากนั้น เป็นผลมาจากการขายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพรีเมี่ยมมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ประกอบกับการวางระบบบริหารจัดการ และการควบคุมภายในที่ดีขึ้น สามารถควบคุมต้นทุนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ อีกทั้งมีการเพิ่มกลยุทธ์ในการวางแผนสื่อโฆษณาเพื่อส่งเสริมการตลาดและการขาย อีกด้วย
“การขยายตัวของยอดขายเลนส์พรีเมียม หรือที่เรียกว่า “เลนส์พลาสติกมูลค่าเพิ่ม” เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดสหรัฐอเมริกามีอัตราการขยายตัวสูงที่สุด ทั้งนี้ นอกจากตลาดฝั่งอเมริกา และยุโรปแล้ว บริษัท ยังให้ความสำคัญกับตลาดกลุ่ม เออีซี ด้วย เนื่องจากมีสัดส่วนความต้องการใช้เลนส์ที่มีความเหมาะสมกับสภาพสายตาที่หลากหลาย ซึ่งมูลค่าการขายเลนส์กลุ่มนี้มีมูลค่าสูง โดยมีผ่านมา TOG ให้ความสำคัญกับการทำวิจัย และพัฒนา เพื่อให้มีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งมั่นใจว่าปี 2559 นี้ TOG จะยังคงมีอัตราการเติบโตตามเป้า” นายธรณ์ กล่าว
อนึ่ง : TOG หรือ บริษัท ไทยออพติคอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2534 ปัจจุบัน มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 475 ล้านบาท โดยเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเลนส์สายตารายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย และผู้นำในฐานะผู้ผลิตเลนส์อิสระในระดับสากล โดย TOG เป็นบริษัทแห่งแรกของไทยที่ดำเนินธุรกิจการผลิตเลนส์สายตากระจก เพื่อจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ค้าส่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยผลิตตามคำสั่งซื้อภายใต้เครื่องหมายการค้าของลูกค้า (Original Equipment Manufacturer หรือ OEM)
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังจำหน่ายเลนส์สายตาของ TOG เอง ภายใต้เครื่องหมายการค้า “ExceliteTM” ซึ่ง บริษัทฯ มีการวิจัยและพัฒนาเลนส์สายตาออกเป็น 4 ประเภท คือ เลนส์สายตาพลาสติก (Organic Lens) เลนส์สายตากระจก (Mineral Lens) เลนส์เฉพาะบุคคลหรือเลนส์สั่งฝนพิเศษ และบริการอื่นๆ ได้แก่ บริการตัดประกอบ (Glazing) ที่ใช้ในกระบวนการผลิต เลนส์สายตาพลาสติกการให้บริการเคลือบเคมีผิวแข็ง เคลือบเคมีตัดแสงสะท้อน บริการตัดประกอบเลนส์เข้ากรอบแว่น รวมไปถึงสินค้าซื้อมาเพื่อต่อ เป็นต้น