28 มิถุนายน 2561 : นายวิรงค์ พัฒนกำจร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารตัวแทน บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดเผยว่า ผลงานในไตรมาส 1 ปี 2561 ของช่องทางตัวแทนทำผลงานได้ดีมากแม้ในภาวะตลาดชะลอตัว ด้วยการสร้างยอดเบี้ยประกันภัยรับปีแรก ได้ถึง 420 ล้านบาท เติบโตขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนถึงความสำเร็จในการดำเนินกลยุทธ์ที่ชัดเจนของช่องทางนี้
โดยในช่วงครึ่งปีหลังนี้นับเป็นช่วงที่สำคัญในการสร้างผลงาน ทีมงานช่องทางตัวแทนทุกคนจะทุ่มเททำงานอย่างหนัก เพื่อพิชิตเป้าหมายของช่องทางตัวแทนด้วย เบี้ยประกันภัยรับปีแรก 2,000 ล้านบาท ด้วยเป้าหมายนี้ช่องทางตัวแทนจะเป็นช่องทางที่สำคัญที่สร้างเบี้ยสูงสุด ให้กับบริษัท เพื่อสามารถพิชิตยอดเบี้ยประกันภัยรับรวม 34,000 ล้านบาทจากทุกช่องทาง
ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด แนวทางการดำเนินงานของช่องทางตัวแทนในปีนี้ นายวิรงค์ เปิดเผยว่าบริษัทฯ จะเดินหน้าเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัด [INFINITE GROWTH ] มุ่งสร้างตัวแทนยุคดิจิทัล (AGE OF DIGITAL AGENCY) ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่
1.ความเป็นมืออาชีพ (PROFESSIONAL AGENCY) โดยบริษัทให้ความสำคัญกับการสรรหาตัวแทนใหม่ที่เน้นคุณภาพ อย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง เพื่อสร้างทีมงานรุ่นใหม่ที่มีบุคลิกลักษณะเฉพาะแบบอลิอันซ์ อยุธยา ที่ให้ความสำคัญกับผลงานและเป้าหมายที่ชัดเจน ผ่านกระบวนการฝึกอบรมของบริษัทฯ ที่ได้วางไว้อย่างเป็นขั้นตอน ยิ่งไปกว่านั้นบริษัท ได้เพิ่มโครงการใหม่ BLUE STAR ACADEMY ซึ่งเป็นโครงการสร้างและพัฒนาบุคลากร สู่การเป็นตัวแทนเต็มเวลา
โดยการคัดสรรคนรุ่นใหม่เข้าโครงการเพื่ออบรมให้เป็นตัวแทนมืออาชีพ มีแผนรับรองรายได้ให้ในช่วงแรกของการทำงาน นอกจากนี้ยังมีโครงการยกระดับตัวแทน ที่เรียกว่า STEP UP ให้ตัวแทนมีเป้าหมายที่ชัดเจนและมีวินัย เพื่อให้มีแรงผลักดันในการสร้างสรรค์ผลงานที่มากขึ้น รวมถึงการเติบโตไปพร้อมกับการเติบโตของบริษัทฯ
“ปีนี้ตั้งเป้าหมายขยายตัวแทนใหม่อีก 6,000 คน ปัจจุบันได้มากว่า 3,000 คนแล้ว จากปัจจุบันมีตัวแทนทั้งหมด 10,000 คน บริษัทฯ เร่งขยายตัวแทนในต่างจังหวัดให้มากยิ่งขึ้น เพราะเชื่อว่ายังมีโอกาสที่จะขยายตลาดได้อีกมากในอนาคต”
2.ปรับตัวเข้าสู่ดิจิทัล (DIGITAL AGENCY) โดยเน้นให้ตัวแทนใช้เครื่องมือดิจิทัลในการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเราเห็นการเพิ่มขึ้นของอัตราการใช้งาน Allianz Discover ซึ่งมีฟังก์ชั่น Expert Underwriting System (ระบบการพิจารณารับประกันแบบอัตโนมัติ) ช่วยอนุมัติกรมธรรม์ได้ ณ จุดขาย และช่วยย่นระยะเวลาในการอนุมัติกรมธรรม์ใหม่จาก 3 วัน เหลือเพียงไม่กี่นาทีสำหรับเคสที่ไม่ซับซ้อน หรือสูงสุดเพียง 15 นาที
สำหรับเคสที่มีความซับซ้อนมากขึ้น เครื่องมือนี้ทำให้ลูกค้าได้ทราบผลการพิจาณาได้รวดเร็วขึ้น และยังช่วยสนับสนุนตัวแทนให้ทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนั้นภายใต้โครงการ Social Media for Sales นับเป็นนวัตกรรมที่ อลิอันซ์ อยุธยา เป็นแห่งแรกที่ใช้ก่อนใคร เพื่อช่วยฝ่ายขายในการติดต่อและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในโลกออนไลน์ทำให้ตัวแทนเข้าถึงลูกค้ามากขึ้นรู้จักกันมากขึ่นติดต่อกันได้ตลอดเวลา รวมทั้งเป็นเครื่องมือในการช่วยรีครูทตัวแทนใหม่ๆเข้ามาในธุรกิจ
โดยโครงการนำร่องเริ่มขึ้น กลางปี 2557 มีฝ่ายขายเข้าร่วมโครงการเพียง 22 ราย ปัจจุบันมีฝ่ายขายที่สนใจและมีศักยภาพในการใช้โซเชียลมีเดียเข้าร่วมโครงการ 1,375 ราย
3. ตัวแทนสามารถให้คำแนะนำด้านการคุ้มครองสุขภาพและสุขภาพทางการเงินควบคู่กันไป (HEALTH & WEALTH PROTECTION) ซึ่งบริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ถือเป็นข้อได้เปรียบที่ชัดเจน ตัวแทนสามารถเลือกสรรผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าได้ตรงตามความต้องการในแต่ละช่วงชีวิต ซึ่งทำให้การเสนอขายเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ล่าสุด เราได้เปิดตัว “ประกันสุขภาพ เฟิร์สคลาส @บีดีเอ็มเอส” ตอกย้ำผู้นำผลิตภัณฑ์คุ้มครองชีวิตและสุขภาพ ตอบโจทย์ความต้องการบริการทางการแพทย์ที่เหนือระดับ ครอบคลุมทุกการทุกการรักษาพยาบาล นอกจากนั้นยังเน้นไปที่ Holistic Care คือการดูแลสุขภาพรอบด้านให้กับลูกค้า ไม่เป็นเพียงแค่บริษัทประกันที่ช่วยแค่จ่ายค่ารักษาพยาบาล
และอีกกลยุทธ์ที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพื่อการเติบโตของช่องทางตัวแทนอย่างยั่งยืน ต้องมาจากทีมงานที่แข็งแกร่ง คือ การมุ่งยกระดับการบริหารงานของผู้ดูแลพื้นที่ โดยมีการแบ่งเขตการทำงานทั่วประเทศเป็น 7 พื้นที่ และจัดให้มีเจ้าหน้าที่จากบริษัทฯ สนับสนุนให้ตัวแทนทำงานอย่างเป็นระบบ และมีการทำงานประสานกับบริษัทฯ อย่างใกล้ชิดเพื่อช่วยให้ตัวแทนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น