25 มิถุนายน 2561 : นายเสกสม อินทรลาวัณย์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสาย SME Relationship Management & New Business UPC ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีเพื่อนำนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการกับลูกค้าที่ดียิ่งขึ้น
และก้าวทันต่อรูปแบบการใช้ชีวิตของคนในสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หนึ่งในการทุ่มเทพัฒนาจนเห็นผลเป็นที่ประจักษ์ คือ ความก้าวหน้าและการเติบโตอย่างรวดเร็วของระบบการชำระเงินรูปแบบใหม่ๆ ที่ปัจจุบันสามารถเข้ามาแทนที่การใช้เงินสดได้อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตามการมีระบบชำระเงินที่มีประสิทธิภาพเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอที่จะจูงใจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนในสังคมได้
ธนาคารไทยพาณิชย์ยังได้พยายามส่งเสริมและกระตุ้นกลุ่มผู้ประกอบการ ร้านค้า อีคอมเมิร์ซทั้งในฝั่งขารับ ให้เห็นความสำคัญของรูปแบบการชำระเงินใหม่ๆ ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และช่วยการบริหารจัดการเงินสดมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะเดียวกันกระตุ้นกลุ่มผู้บริโภคและผู้ซื้อให้เกิดประสบการณ์ที่ดีและสร้างความคุ้นเคยในการใช้งาน ผ่านการจัดกิจกรรมและแคมเปญที่หลากหลายไปยังลูกค้ากลุ่มต่างๆ
สำหรับครั้งนี้ธนาคารฯ ได้ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) พันธมิตรที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้น จัดงาน SCB – FTI Factory Outlet ครั้งที่ 16 ภายใต้แนวคิด เสน่ห์ไทย 4.0 ซึ่งผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มาร่วมจำหน่ายสินค้ากว่า 200 ร้าน พร้อมใจนำรูปแบบการรับชำระเงินดิจิทัลและอิเล็กทรอนิกส์มาใช้รองรับการซื้อสินค้าของผู้ร่วมงาน
อาทิ การใช้โมบายแบงก์กิ้งในการแสกน QR Code รวมทั้งการชำระค่าสินค้าและบริการด้วยบัตรเครดิตและบัตรเดบิตผ่านเครื่องรับชำระเงิน (EDC) ทั้งนี้ผู้ร่วมงานที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสังคมไร้เงินสดในงานครั้งนี้จะได้รับโปรโมชั่นพิเศษ และสิทธิประโยชน์อีกมากมาย
นอกจากนี้ธนาคารฯ ยังได้ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยรณรงค์ให้ผู้ซื้อสินค้า รวมถึงพนักงานของธนาคารฯ ใช้ถุงผ้าในการจับจ่ายใช้สอยหรือนำถุงพลาสติกที่มีอยู่มาใช้ซ้ำ เพื่อลดการเพิ่มปริมาณขยะถุงพลาสติก ภายใต้แคมเปญ “รักษ์ต้องเลิก” โดยมีบูธ “พี่วาฬใจดี” ให้พนักงานยืมถุงที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ ถ้าเราช่วยกันในวันนี้จะเป็นการสร้างสุขภาวะที่ดีแก่โลกได้อีกทางหนึ่ง
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ได้เล็งเห็นความสำคัญในการจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและผู้บริโภคทั่วไป
โดยให้การสนับสนุนการจัดงานอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ซึ่งงานแสดงสินค้า SCB – FTI Outlet ครั้งที่ 16 นี้ คณะผู้จัดงานฯ ได้คัดเลือกสินค้าที่มีคุณภาพและราคาที่เหมาะสม เพื่อส่งเสริมช่องทางการจัดจำหน่ายให้กับเอสเอ็มอี และเปิดโอกาสในการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นของคนไทยสู่ตลาด รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายภายในประเทศ ก่อให้เกิดสภาพคล่องทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการ
ทั้งนี้ สินค้าของประเทศไทยเป็นสินค้าที่มีเอกลักษณ์โดยเฉพาะ เช่น อาหาร สมุนไพร ผลิตภัณฑ์สุขภาพ เสื้อผ้า และเครื่องประดับ เป็นต้น ซึ่งหากมีการต่อยอดการออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ให้เชื่อมโยงกับเอกลักษณ์ไทยและมีความร่วมสมัย จะช่วยเพิ่มโอกาสในการจัดจำหน่าย และเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ได้ ทั้งยังสามารถตอบสนองนโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาล ที่เน้นการนำความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีมาต่อยอดและพัฒนาสินค้าหรือบริการ หรือที่เรียกว่า Creative Economy ได้เป็นอย่างดี