21 มิถุนายน 2561 : นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co., Ltd.) กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาค จากปัจจัยความกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)
แต่หากกลับมาดูพื้นฐานเศรษฐกิจไทยแล้วพบว่า ปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่งเห็นได้จากตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 1/2561 ออกมาดีกว่าตลาดคาด โดยเติบโตถึง 4.8% ทำให้บลจ.ทิสโก้มองว่า GDP ทั้งปี 2561 ของไทยจะเติบโตในระดับสูงกว่า 4% และตามปกติแล้วในช่วงครึ่งปีหลังภาครัฐจะเร่งลงทุน ซึ่งในปีนี้ยังมีการลงทุนจากโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) มาเสริมอีกด้วย ประกอบกับสถานการณ์การเมืองไทยจะเริ่มชัดเจนมากขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 3 /2561 ถึงไตรมาสที่ 4/2561 ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนได้
นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาถึงราคาของหุ้นไทยในช่วงนี้พบว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยอัตราส่วนราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) ของทั้งตลาดอยู่ในระดับต่ำกว่า 15 เท่า ถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต ขณะที่การเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนไทยในปี 2561 บลจ.ทิสโก้คาดว่าจะมีหลายบริษัทที่มีผลประกอบการออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาด เพราะจะได้อานิสงส์จากเศรษฐกิจไทยที่จะเร่งตัวขึ้นในครึ่งปีหลัง
ดังนั้น บลจ.ทิสโก้มองว่าในช่วงที่ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงครั้งนี้เป็นโอกาสในการเข้าไปลงทุน และเพื่อเป็นการจับจังหวะการลงทุนให้กับลูกค้า จึงเสนอขาย กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 5M#2 (TEQT5M2) ความเสี่ยงระดับ 6 (ความเสี่ยงสูง)
โดยตั้งเป้าหมายเลิกโครงการเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.50 บาท/หน่วยภายในระยะเวลา 5 เดือน หรือ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งหลังจากเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ ซึ่งการกำหนดเป้าหมายดังกล่าว ไม่ใช่การรับประกันผลตอบแทนของกองทุน ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ในช่วงระยะเวลา 5 เดือนแรก
ดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก และเป้าหมายดังกล่าวเป็นเป้าหมายก่อนหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง โดยเปิดเสนอขายครั้งแรกตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 26 มิ.ย.2561 มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท