20 มิถุนายน 2561 : ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า เพื่อให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับสัญญาประกันภัยและสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากสัญญาประกันภัยมีความคุ้มครองที่หลากหลาย
โดยเฉพาะกรมธรรม์ประกันภัยที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ ซึ่งกรมธรรม์ประกันภัยถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการบริหารจัดการความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจ ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นตามกรมธรรม์ประกันภัยของผู้ประกอบการ จึงเป็นสิ่งสำคัญในการประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้เหมาะสมกับการบริหารจัดการความเสี่ยง
เช่น การประกันภัยอัคคีภัย การประกันภัยความเสี่ยงภัยต่อทรัพย์สิน การประกันภัยการสูญเสียรายได้และค่าใช้จ่ายคงที่ระหว่างธุรกิจหยุดชะงัก การประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอก การประกันภัยสำหรับเรือเจ็ตสกีเพื่อเช่า การประกันภัยอุบัติเหตุเดินทางสำหรับธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ การประกันภัยผู้โดยสารเรือสำหรับโดยสาร
ดังนั้นเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2561 สำนักงาน คปภ.จึงได้จัดเวทีสัมมนาเพื่อให้ความรู้ด้านกฎหมายประกันภัยกับกลุ่มผู้ประกอบการ SME ณ โรงแรมเซ็นทาราอันดาเทวี รีสอร์ทและสปา จังหวัดกระบี่ โดยเลขาธิการ คปภ. เป็นประธานเปิดการสัมมนาและบรรยายพิเศษในหัวข้อ “ประกันภัยถูกทางสร้างเกราะให้ SME”
ซึ่งได้รับเกียรติจากว่าที่ร้อยตรีอภินันทร์ เผือกผ่อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ให้การต้อนรับและกล่าวขอบคุณที่สำนักงาน คปภ.เลือกจังหวัดกระบี่เป็นเวทีให้ความรู้ด้านประกันภัยแก่ผู้ประกอบการ SME อันจะทำให้ผู้ประกอบการ SME มีความเข้าใจและสามารถนำระบบประกันภัยบริหารความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจของกลุ่มผู้ประกอบการ SME ในพื้นที่ของจังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และสอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของจังหวัดกระบี่ที่รัฐบาลมีนโยบายให้เป็นจังหวัดคู่แฝดกับจังหวัดภูเก็ตอีกด้วย สำหรับเนื้อหาของการสัมมนาในครั้งนี้ประกอบด้วย การประกันภัยที่จำเป็นต่อธุรกิจ การบริหารความเสี่ยงของธุรกิจด้วยการประกันภัยหลักการที่จำเป็นในการพิจารณาทำประกันภัยและกรณีศึกษา โดยเปิดโอกาสให้ผู้เข้าสัมมนามีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และรับฟังสภาพปัญหาอุปสรรคต่างๆเพื่อนำไปปรับปรุงกรมธรรม์ประกันภัยให้ตรงตามความต้องการของผู้ประกอบการ SME อีกด้วย
เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า เวทีสัมมนาในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะเติมเต็มองค์ความรู้ด้านประกันภัยและเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับผู้ประกอบการ SME ในจังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียงให้ตระหนักถึงความสำคัญในการบริหารความเสี่ยงด้วยระบบประกันภัย ซึ่งปัจจุบันผู้ประกอบการขนาดใหญ่น่าเป็นห่วงน้อยกว่าผู้ประกอบการSME ขนาดกลางและขนาดย่อม
เนื่องจากผู้ประกอบการ SME ขนาดใหญ่มีการนำระบบประกันภัยเข้าไปบริหารความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจเกือบทุกมิติ ซึ่งต่างไปจากผู้ประกอบการ SME ขนาดกลางและขนาดย่อมที่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้นำระบบประกันภัยบริหารความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจมากนัก ทั้งๆที่การประกันภัยถือเป็นรูปแบบของการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ
โดยมีบริษัทประกันภัยเป็นผู้รับโอนความเสี่ยงภัยด้วยการจ่ายค่าสินไหมทดแทนในส่วนของค่าเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากภัยแทนผู้ประกอบการเจ้าของความเสี่ยงนั้นๆ ตามที่ตกลงกันในสัญญาประกันภัย ซึ่งจะมีส่วนช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ลดภาระค่าใช้จ่ายในหลายมิติ เช่น ในกรณีที่สถานประกอบการเกิดเหตุเพลิงไหม้
น้ำท่วมนอกจากค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมตัวอาคารและปรับปรุงภายในอาคารแล้ว ในระหว่างที่กำลังซ่อมแซมอยู่นั้น ผู้ประกอบการ SME ไม่สามารถประกอบกิจการได้เป็นระยะเวลาเท่าไรและขาดรายได้จากการที่ไม่สามารถประกอบกิจการเป็นจำนวนเงินเท่าใด ตัวกรมธรรม์ประกันภัยที่ผู้ประกอบการ SME ทำไว้จะเข้ามาบริหารความเสี่ยงในจุดนี้ทันที
แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดในการทำประกันภัย คือ ผู้ประกอบการ SME จะต้องมีความเข้าใจว่าธุรกิจของตนเองมีความเสี่ยงในเรื่องใดบ้าง เพื่อที่จะสามารถเลือกการประกันภัยที่เหมาะสมกับความเสี่ยงภัยที่ธุรกิจของตนจะต้องเผชิญ เนื่องจากการประกันภัยมีความคุ้มครองที่หลากหลาย เช่น การประกันอัคคีภัย เป็นการให้ความคุ้มครองแก่ทรัพย์สินเมื่อเกิดเพลิงไหม้
การประกันภัยความรับผิด เป็นการให้ความคุ้มครองกรณีที่ผู้เอาประกันภัยมีความรับผิดต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่บุคคลอื่น การประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก เป็นการให้ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายต่างๆ จากกรณีที่ไม่สามารถประกอบธุรกิจได้ หรือการประกันภัยไซเบอร์ ในกรณีที่ธุรกิจเกิดความเสียหายจากการถูกจู่โจมทางไซเบอร์หรือถูก แฮกข้อมูล เป็นต้น