8 มิถุนายน 2561 : นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 176 เสนอขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 12 มิถุนายน 2561 อายุ 12 เดือน เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ประเภทเงินฝากประจำ Agricultural Bank of China ,China Construction Bank Asia , Bank Of East ASIA และพันธบัตรรัฐบาล
ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ในสัดส่วนสถาบันการเงินละ 19% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ลงทุนใน MTN Mashreq Bank 14% ลงทุนในบัตรเงินฝาก Industrial and commercial bank of China และเงินฝากประจำ Bank of China ในสัดส่วนสถาบันการเงินละ5 % ผลตอบแทนประมาณ 1.40 % ต่อปี
นอกจากนี้ กองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ทอินเวส 6 เดือน3 ( KTSIV6M3) เสนอขายรอบใหม่ (Roll Over ) ในวันที่ 11-15 มิถุนายน 2561 อายุ 6 เดือน เน้นลงทุนในพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 85% และส่วนที่เหลือลงทุนในตั๋วแลกเงิน บริษัทราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน ) ผลตอบแทนประมาณ 1.10% ต่อปี
แนวโน้มอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ในประเทศ ในช่วงครึ่งปีหลัง 2561 มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากกลางปี 2561 โดยเฉลี่ยประมาณร้อยละ 0.24-0.30 ต่อปี ตามการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ผ่านการไหลเข้าออกของเงินลงทุนต่างชาติ
โดยคาดว่าอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ไทยจะปรับขึ้นในระดับที่น้อยกว่า เนื่องจากยังคงมีสภาพคล่องส่วนเกินเหลืออยู่ในระบบการเงินจำนวนมาก ในขณะที่ตราสารหนี้ออกใหม่ยังมีไม่พอกับความต้องการลงทุน และคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย (กนง.) ยังมีแนวโน้มที่จะคงดอกเบี้ยนโยบาย (R/P 1วัน) ไว้ที่ 1.50% ต่อปี ตลอดปี 2561
ล่าสุดอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ไทย อายุคงเหลือ 2 ปี อยู่ที่ 1.74% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี อยู่ที่ 2.13% ต่อปี อายุคงเหลือ 10 ปี อยุ่ที่ 2.81% ต่อปี ส่วนตราสารหนี้สหรัฐ อายุคงเหลือ 2 ปี อยู่ที่ 2.47% อายุคงเหลือ 5 ปี อยู่ที่ 2.74% และอายุคงเหลือ 10 ปี อยู่ที่ 2.89%