21 พฤษภาคม 2561 : ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KTBST ประเมินหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (21-25 พ.ค.) ว่า ประเด็นสำคัญในเรื่อง การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนมีทิศทางที่เป็นบวกมากยิ่งขึ้น โดยเบื้องต้นจีนได้เสนอการลดการขาดดุลการค้าราว 200 พันล้านเหรียญ
ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ได้ออกมาเรียกร้องในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งการลดการขาดดุลดังกล่าวนั้น ทางจีนเสนอผ่านทางการเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากทางฝั่งสหรัฐฯมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี ข้อสังเกตที่น่าสนใจในการเสนอข้อตกลงดังกล่าวก็คือ
1.ทางการจีนไม่ได้เสนอการลดภาษีนำเข้ากับทางสหรัฐฯแต่อย่างใด ประเด็นดังกล่าวจะทำให้สินค้าของสหรัฐฯจะยังคงแข่งขันในตลาดจีนได้ยากและการลดการขาดดุลดังกล่าวเป็นเพียงปัจจัยระยะสั้น
2.ทางการจีนไม่ได้กล่าวถึงท่าทีของสหรัฐฯหลังจากได้ฟังข้อเสนอดังกล่าว
ขณะที่ Bond Yield ของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้นยังเป็นปัจจัยกดดันให้ตลาดหุ้นไทยไปได้ไม่ไกลและทำให้ตลาดยังมีความผันผวนในสัปดาห์นี้ ส่วนราคาน้ำมันดิบยังมีปัจจัยหนุนโดยเฉพาะความขัดแย้งของประเทศในตะวันออกกลาง (ซีเรีย-ซาอุฯ-อิสราเอล)
และผลเลือกตั้งเวเนซูเอลล่าช่วงวันหยุดที่ผ่านมา อาจฉุดให้กำลังการผลิตน้ำมันของประเทศนี้ลดต่ำลงไปอีก แต่เป็นผลบวกต่อ หุ้นผู้ผลิตน้ำมันเช่น PTT-PTTEP จะมีรายได้มากขึ้น แต่กลุ่มผู้มีต้นทุนอิงราคาน้ำมันดิบ คือ ปิโตรเคมี ภาคการขนส่ง จะเริ่มเป็นลบหลังราคาน้ำมันดิบ WTI ทะลุ $70 เหรียญ หรือ BRENT เกิน $80 เหรียญ
ดังนั้นแนวโน้มตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้มีความผันผวนสูงจากหลายปัจจัยการซื้อขายในช่วงนี้ ต้องพิจารณาจากตัวแปรที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน น้ำหนักการลงทุนในสัปดาห์นี้ แนะถือเงินสดเพิ่มขึ้น หรือเข้าซื้อเก็งกำไรช่วงสั้น ในหุ้นที่มีข่าวบวกสนับสนุน จากเรื่องตัวเลขส่งออกที่คาดว่าจะออกมาดี และสหรัฐฯ-จีนบรรลุข้อตกลงการค้า น่าจะบวกต่อหุ้นส่งออกทั้ง KCE และ HTECH
ขณะที่ตัวเลขยอดขายรถและส่งออกรถของไทยที่เติบโต เป็นบวกต่อหุ้น AH รวมถึงหุ้นกลุ่มโทรศัพท์อย่าง TRUE หลังบริษัทฯไม่เข้าประมูลคลื่นรอบแรกน่าจะส่งบวกต่อฐานะการเงินและการทำให้มีการ Split ใบอนุญาตให้เล็กลง จาก 3 ใบเป็น 9 ใบ
และท้ายสุดหุ้นอิงผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ หาก 23 พ.ค. timeline เลือกตั้งไม่เปลี่ยนหรือเปลี่ยนไม่มาก จะเป็นบวกต่อหุ้นนิคมฯ โดยตรงอย่าง WHA หากผลออกมาตามที่คาด คือ รอซื้อเมื่อเห็นผลของคำวินิจฉัย KTBST มองกรอบดัชนีฯในสัปดาห์นี้ที่ 1,720-1,780 จุด