16 พฤษภาคม 2561 : นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยับตัวดีขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป จากปัจจัยสนับสนุนของเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว ประกอบกับในประเทศยังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐที่เริ่มทยอยออกมา
รวมถึงการผลักดันมาตรการขับเคลื่อนประเทศเพื่อสร้างงานและรายได้ในระดับท้องถิ่น และการเร่งรัดโครงสร้างระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่ชัดเจนมากขึ้น ตลอดจนภาวะการเงินที่ผ่อนคลาย จะเป็นผลให้การใช้จ่ายภาคเอกชนทั้งการบริโภคและการลงทุนมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น”
“สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในช่วง 3 เดือนแรก ยังคงเติบโตต่อเนื่องในลักษณะที่ชะลอตัวลงจากปีก่อน ในส่วนของเคทีซีถือว่ามีผลการดำเนินงานที่ดีเกินคาด โดยสามารถทำกำไรสุทธิในไตรมาสแรกของปีนี้ได้ 1,209 ล้านบาท หรือมีอัตราส่วนการเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 65% แม้ว่าบริษัทฯ จะต้องเผชิญกับความท้าทายสำคัญจากมาตรการและกฎเกณฑ์การควบคุมวงเงินบัตรเครดิตและการเข้าถึงสินเชื่อส่วนบุคคล
ตลอดจนผลกระทบจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อบัตรเครดิตจาก 20% เป็น 18% ซึ่งทำให้พอร์ตลูกหนี้บัตรเครดิตเติบโตช้าลง ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรชะลอตัว แต่ด้วยประสิทธิภาพในการติดตามหนี้และการบริหารลูกหนี้ให้มีคุณภาพตั้งแต่กระบวนการคัดกรองต้นทาง
จึงทำให้ NPL รวมของบริษัทฯ ยังลดต่ำลงอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ 1.3% จาก 1.7% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งต่ำกว่าอุตสาหกรรม และส่งผลให้รายได้หนี้สูญได้รับคืนเพิ่มขึ้นในขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมลดลง”
“ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2561 เคทีซีมีสินทรัพย์รวมเท่ากับ 69,965 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยสินทรัพย์ที่สร้างรายได้หลักให้กับบริษัทฯ อยู่ในรูปของลูกหนี้การค้าสุทธิ คิดเป็น 92% ของสินทรัพย์รวม โดยพอร์ตลูกหนี้การค้ารวมสุทธิเมื่อหักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญแล้วเท่ากับ 64,592 ล้านบาท
ฐานสมาชิกรวม 3.0 ล้านบัญชี เติบโต 3.3% แบ่งเป็นบัตรเครดิต 2,207,773 บัตร ขยายตัว 3.5% พอร์ตลูกหนี้บัตรเครดิตสุทธิมีสัดส่วน 65% ของพอร์ตลูกหนี้สุทธิรวม ยอดลูกหนี้บัตรเครดิตสุทธิ 42,137 ล้านบาท สัดส่วนของลูกหนี้บัตรเครดิตเทียบกับอุตสาหกรรมปัจจุบันอยู่ที่ 12.6% อัตราเติบโตการใช้จ่ายผ่านบัตรเคทีซีรวมเท่ากับ 8.4% (อุตสาหกรรมเติบโต 10.1%) ส่วนแบ่งตลาดของการใช้จ่ายผ่านบัตรเท่ากับ 11.0% NPL
บัตรเครดิตอยู่ที่ 1.14% ลดลงจาก 1.26% (อุตสาหกรรม 2.26%) สินเชื่อบุคคล 857,613 บัญชี ขยายตัว 2.8% ยอดลูกหนี้สินเชื่อบุคคลสุทธิ 22,315 ล้านบาท สัดส่วนลูกหนี้สินเชื่อบุคคลเทียบกับอุตสาหกรรมเท่ากับ 6.9% และ NPL ของสินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 0.82% ลดลงจาก 0.89% (อุตสาหกรรม 2.67%) โดยสัดส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อ NPL ยังคงมูลค่าสูงที่ 591% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 500%”
“ไตรมาสแรกของปี 2561 เคทีซีมีอัตราเติบโตของรายได้รวมสูงกว่าค่าใช้จ่าย โดยสามารถทำรายได้เพิ่มขึ้น 10% เท่ากับ 5,108 ล้านบาท จากรายได้ดอกเบี้ยซึ่งส่วนใหญ่เพิ่มจากลูกหนี้สินเชื่อบุคคลที่ยังเติบโตได้ดี (รวมรายได้ค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงิน) รายได้ค่าธรรมเนียมและรายได้อื่นๆ ซึ่งมีสัดส่วน 86% มาจากหนี้สูญได้รับคืน และมีการควบคุมค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 3,603 ล้านบาท ลดลง 3% จากค่าใช้จ่ายการตลาดที่ลดลง
เพราะอนุมัติสมาชิกใหม่ในจำนวนน้อยลงกว่าประมาณการที่ตั้งไว้ และมีการใช้งบประมาณด้านการตลาดที่มีประสิทธิภาพผ่านเทคโนโลยีมากขึ้น ทำให้ใช้จ่ายเม็ดเงินน้อยลง ในขณะที่มูลค่าหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญลดลงเช่นกันเนื่องจากพอร์ตลูกหนี้ที่ขยายตัวได้ช้า ทำให้การตั้งสำรองและค่าใช้จ่ายการเงินที่เป็นต้นทุนเงินก็ลดลง
เนื่องจากบริษัทฯ ออกหุ้นกู้ใหม่ในระยะเวลาที่ยาวขึ้นด้วยต้นทุนเงินที่ต่ำลงกว่าหุ้นกู้เดิม โดยรักษาสัดส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้สุทธิ (Operating Cost to Income Ratio) ที่ต่ำอยู่แล้วให้คงเดิมที่ 27.2% เท่ากับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งแสดงว่าบริษัทยังคงรักษาประสิทธิภาพในกระบวนการทำงานได้ดี”