8 พฤษภาคม 2561 : ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด (TMBAM) กล่าวถึงการเดินหน้าสู่การเป็น “คู่ชีวิตการลงทุน” ในยุคดิจิทัลว่า “TMBAM ยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลักในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ ซึ่งพฤติกรรมการดำเนินชีวิตของคนรุ่นปัจจุบันที่เปลี่ยนไป ทำให้ต้องมุ่งพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงการลงทุนให้ง่ายดายยิ่งขึ้น
สำหรับเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจ บริษัทคาดหวังไว้ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาคาดว่าจะมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (AUM) 5 แสนล้านบาท ภายใน 3 ปี ปัจจุบันทำไปได้แล้ว 4.2 แสนล้านบาท โดยคาดว่าจะออกกองทุนใหม่เพื่อให้ครอบคลุมในทุกกลุ่ม และปีนี้บริษัทมีแผนเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ในกองทุนใหม่เพื่อลงทุนในอินเดีย เปิดจำหน่ายวันที่ 21-24 เดือนพฤษภาคม 2562 นี้ มูลค่าเริ่มต้น 2 พันล้านบาท โดยเชื่อว่าอินเดียมีโอกาสที่ดีในอีก 10 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ดี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา TMBAM ไม่หยุดนิ่งที่จะออกแบบกองทุนรวม เพื่อให้ครอบคลุมทุกสินทรัพย์หลักที่อยู่ในความสนใจของผู้ลงทุนและเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลา พัฒนาการของกองทุนในตระกูล “ธนแฟมิลี่” จากการริเริ่มนำเสนอกองทุนประเภทตราสารหนี้ระยะสั้น (Short-Term Fixed Income Fund) ที่ยกระดับของผลตอบแทนให้สูงกว่ากองทุนรวมตลาดเงินแต่ยังคงสภาพคล่องที่สูง (T+1) ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจนกองทุนเปิดทหารไทย ธนพลัส มี AUM (มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ) ใกล้เคียงแสนล้านบาท
หรือกระทั่งกองทุนน้องใหม่ กองทุนเปิดทหารไทย ธนเพิ่มพูนกับ AUM ขนาด 34,000 ล้านบาท เมื่อรวมทั้งตระกูล “ธนแฟมิลี่” ทั้ง 7 กองทุนแล้วมี AUM รวมกันกว่า 222,000 ล้านบาท (ณ 3 พ.ค.2561) นับเป็นหนึ่งในตัวอย่างของการบริหารกองทุนตราสารหนี้ในสไตล์ Active ของ TMBAM เพื่อสร้างประสิทธิภาพของผลตอบแทนควบคู่ไปกับการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ
สำหรับการบริหารกองทุนหุ้นไทยนั้น นับจากการเปิดตัวกองทุนเปิดทหารไทย SET50 เมื่อ 17 ปีที่ผ่านมาพร้อมความสำเร็จของผลการดำเนินงานกองทุน จาก NAV เริ่มต้นที่ 10 บาทเติบโตขึ้นเป็น 110 บาท (ณ 3 พ.ค.2561) นั้น TMBAM ยังคงยึดมั่นแนวทางารบริหารกองทุนหุ้นไทยในสไตล์ Passive ที่มีค่าธรรมเนียมการจัดการที่เหมาะสมโดยเชื่อมั่นว่ากองทุนหุ้นไทยสไตล์ Passive ที่บริหารอยู่นั้นยังมีความเหมาะสมยิ่งเมื่อลงทุนในลักษณะ DCA (Dollar-Cost Averaging) เพื่อการสะสมความมั่งคั่งอย่างต่อเนื่องและเพื่อผลสำเร็จในระยะยาว
นอกเหนือจากการบริหารจัดการลงทุนเอง TMBAM ยังร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกนำเสนอกองทุนรวมต่างประเทศคุณภาพให้ผู้ลงทุนไทยได้ใช้เป็นทางเลือกในการจัดพอร์ตตามความต้องการ กรณีที่ผู้ลงทุนไม่มีเวลาศึกษาหาข้อมูล TMBAM ยังได้นำเสนอกองทุนประเภทที่จะช่วยจัดทัพลงทุนให้โดยอัตโนมัติตามวัตถุประสงค์และระยะเวลาที่สามารถลงทุนได้
โดยออกกองทุนทั้งในรูปแบบระยะสั้น ระยะปานกลาง และระยะยาว กองทุนดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงคุณภาพและประสิทธิภาพของการทำ Asset Allocationโดยกองทุนเปิดทหารไทยจัดทัพลงทุน ระยะสั้น (2-3 ปี) ยังได้รับการจัดอันดับโดยรวมสูงสุดระดับ 5 ดาวจากมอร์นิ่งสตาร์ (ประเทศไทย) อีกด้วย (ข้อมูล ณ 30 มี.ค.61)
ปัจจุบัน TMBAM บริหารกองทุนรวมมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (AUM) กว่า 420,000 ล้านบาท* มีกองทุนที่บริหารเองและได้รับการจัดอับดับโดยรวมสูงสุด 5 ดาวจากมอร์นิ่งสตาร์ 5 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดทหารไทย China Opportunity กองทุนเปิดทหารไทย Global Quality Growth กองทุนเปิดทหารไทย World Equity Index กองทุนเปิดทหารไทยจัดทัพลงทุน ระยะสั้น (2-3 ปี) และกองทุนเปิดทหารไทย ธนไพศาล
โดยกองทุนเปิดทหารไทย ธนไพศาล ยังได้รับรางวัลยอดเยี่ยม 2 ปีซ้อน ประเภทกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น (Short Term Bond) จากมอร์นิ่งสตาร์ (ประเทศไทย) (*ยอดรวม AUM ดังกล่าวไม่รวมบางธุรกิจที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทฯ อาทิกองทุน ETF ที่จดทะเบียนซื้อขายใน SET คือ ENGY และ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ LUXF,การลงทุนโดยตรงของธุรกิจ Private Fund และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแบบ Single Fund)
สำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ TMBAM ยังคงยึดมั่นและเป็นผู้นำในการนำเสนอสิ่งที่สำคัญที่สุดให้แก่สมาชิกโซลูชั่นการลงทุนแบบ TMBAM M Choice ช่วยเพิ่มศักยภาพ (empower) ของสมาชิกแต่ละรายให้สามารถจัดทัพลงทุนตามความเสี่ยงที่ตนยอมรับได้ ปรับพอร์ตและสับเปลี่ยนกองทุนของตนได้อย่างอิสระตลอด 24 ช.ม. เพื่อให้มีเงินเพียงพอยามเกษียณ
สิ่งนี้เองทำให้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ TMBAM M Choice ซึ่งจดทะเบียนแล้ว สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ ประเภทกองทุนร่วม (Pooled Fund) ที่มีขนาดกองทุนมากกว่า 10,000 ล้านบาท จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สามปีติดต่อกัน (2558-2560) ในโครงการประกวดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดีเด่น จัดโดยสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
หัวใจสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับการลงทุนยุคใหม่คือการให้ข้อมูลที่มีคุณภาพ เข้าใจง่าย เข้าถึงได้สะดวก TMBAM จึงได้พัฒนาโปรแกรม “My Dream” โดยเริ่มพัฒนาขึ้นตั้งแต่ 4-5 ปีที่ผ่านมา เพื่อช่วยให้ลูกค้ากองทุนรวม “เพื่อนคู่คิด” ในการลงทุน โดยโปรแกรมจะช่วยจำลองผลการลงทุนในอนาคต ให้คำแนะนำพอร์ตลงทุนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงทางการลงทุนของแต่ละบุคคล
โปรแกรมนี้ยังสามารถติดตามผลระหว่างทางจนกว่าการลงทุนจะบรรลุถึงเป้าหมาย และยังได้ออกแบบโปรแกรมที่ช่วยคาดการณ์ความพอเพียงยามเกษียณให้กับสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพผ่านทางโปรแกรมที่เรียกว่า “RetireRich Workbook” นอกจากนี้ โปรแกรมนี้ยังได้รับการพัฒนาต่อยอดเป็นโปรแกรม “RetireRich Simulator” สำหรับประชาชนทั่วไป TMBAM เชื่อว่าโปรแกรมการลงทุนที่มีมาตรฐานและหลักการรองรับข้างต้นเป็นโซลูชั่นการลงทุนที่มีคุณภาพ และเชื่อมั่นว่าจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้ประชาชนสามารถยกระดับฐานะทางการเงินได้ในหนึ่งรุ่นคน