3 พฤษภาคม 2561 : นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2561 เป็นต้นไป ส่วนราชการในสังกัดของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะเริ่มจ่ายเงินสงเคราะห์ให้แก่ผู้มีสิทธิโดยการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนผู้มีสิทธิเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้
รวมทั้งเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลในโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการรับจ่ายเงินภาครัฐทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Payment ภาครัฐ ตามแผนยุทธศาสตร์ National e-Payment
สำหรับเงินสงเคราะห์ที่จะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิ ประกอบด้วย-เงินอุดหนุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน ของสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์-เงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง ค่าใช้จ่ายโครงการรณรงค์เพื่อป้องกันเอดส์ เงินทุนประกอบอาชีพ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับตัวชาวเขา และเงินอุดหนุนช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรมเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516
ของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ- เงินช่วยเหลือสตรีหรือครอบครัวที่ประสบปัญหาทางสังคม ของกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว-เงินอุดหนุนสงเคราะห์และฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ ของกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ-เงินสงเคราะห์เด็กครอบครัวยากจน/ขาดแคลน/ฝากเลี้ยงตามบ้าน ของกรมกิจการเด็กและเยาวชน-เงินที่จ่ายให้แก่ผู้สูงอายุตามความจำเป็น ของกรมกิจการผู้สูงอายุ
อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวอีกว่า การเปลี่ยนรูปแบบการจ่ายเงินแบบเดิมเป็นการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิโดยตรง ถือเป็นมาตรการหนึ่งในการดูแลผู้ประสบปัญหาทางสังคมให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเกิดความโปร่งใส และลดความซ้ำซ้อน ซึ่งจะทำให้ผู้ประสบปัญหาทางสังคมได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย และคาดว่าจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตและบรรเทาความเดือดร้อนได้ในระดับหนึ่ง