30 เมษายน 2561 : นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2561 ซึ่งกำหนดพื้นที่เป้าหมายการรับประกันภัยไว้ที่ 30 ล้านไร่ แบ่งเป็นเกษตรกรที่เป็นลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 29 ล้านไร่ และเกษตรกรทั่วไป จำนวน 1 ล้านไร่ เบี้ยประกันภัย 90 บาทต่อไร่
ซึ่งรัฐบาลอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัย 54 บาทต่อไร่ และ ธ.ก.ส. อุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยให้กับเกษตรกรที่เป็นลูกค้าสินเชื่อ ธ.ก.ส. 36 บาทต่อไร่ ตามเงื่อนไขวงเงินกู้ ส่วนลูกค้าทั่วไปสามารถซื้อประกันภัยได้เอง โดยจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยเพียง 36 บาทต่อไร่ คุ้มครองความเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทั้งหมด 6 ภัย ได้แก่ น้ำท่วมหรือฝนตกหนัก ภัยแล้ง ฝนแล้งหรือฝนทิ้งช่วง ลมพายุหรือพายุไต้ฝุ่น ภัยอากาศหนาวหรือน้ำค้างแข็ง ลูกเห็บและไฟไหม้
มีวงเงินคุ้มครอง 1,260 บาทต่อไร่ สำหรับภัยจากศัตรูพืชและโรคระบาด มีวงเงินคุ้มครอง 630 บาทต่อไร่ ทั้งนี้ เกษตรกรที่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตร และปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2561/2562 สามารถซื้อประกันภัยข้าวนาปีได้ ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2561 ของทุกภาค สำหรับภาคใต้ ปิดการขายวันที่ 15 ธันวาคม 2561
เพื่อเป็นการส่งเสริมและสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับเกษตรกรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในปีนี้สมาคมฯ จึงได้จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อออนไลน์ เช่น แผ่นพับ โบรชัวร์ และผลิตคลิปวิดีโอการ์ตูนแอนนิเมชั่น นำเสนอความรู้โดยเผยแพร่ในสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เช่น Facebook Youtube Line เป็นต้น
พร้อมกันนี้จะได้เดินสายร่วมกับสำนักงาน คปภ. ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรเพื่อรับฟังความคิดเห็น ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับโครงการในปีที่ผ่านมา และจัดอบรมความรู้ประกันภัย (Training for the Trainers) สำหรับการประกันภัยข้าวนาปี ประจำปี 2561 ซึ่งมีพื้นที่เพาะปลูกทั้ง 10 จังหวัดรวม 12,810,329 ไร่ และในปีที่ผ่านมามีการจัดอบรม จำนวน 9 จังหวัด มีพื้นที่เพาะปลูกรวม 14,262,833 ไร่
ผลการดำเนินโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2560 ที่ผ่านมาปรากฏว่า มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการจำนวน 1.76 ล้านราย มีพื้นที่รับประกันภัย จำนวน 22.12 ล้านไร่ มีเบี้ยประกันภัยรับ จำนวน 1,990,836,638 บาท และมีจำนวนความเสียหาย 1,577,874 ไร่ รวมทั้งสิ้น 53 จังหวัด มียอดการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับเกษตรกร 172,882 ราย คิดเป็นค่าสินไหมทดแทนรวม 1,987,882,332 บาท
ซึ่งแบ่งเป็นความเสียหายที่เกิดจากอุทกภัย 99.98% วาตภัย 0.01% และศัตรูพืชระบาด 0.01% โดยจังหวัดที่มียอดการจ่ายสินไหมทดแทนสูงสุด ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์และจังหวัดร้อยเอ็ด คิดเป็น 30.82 % ของยอดค่าสินไหมทดแทนทั้งหมด (ข้อมูล ณ วันที่ 25 เมษายน 2561)