3 เมษายน 2561 : นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า “การลงทุนเพื่อการเกษียณอายุ เป็นการลงทุนระยะยาวที่ข้ามผ่านช่วงวัยต่าง ๆ จึงต้องให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ก.ล.ต. จึงสนับสนุนให้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพนำ I Code ไปปรับใช้ เพื่อให้เป็นมาตรฐานสำหรับกองทุนในการคัดเลือกบริษัทจัดการลงทุนที่มีธรรมาภิบาลการลงทุน
มีการลงทุนในกิจการที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม รวมทั้งการกำกับดูแลกิจการที่ดี นอกเหนือจากปัจจัยด้านผลตอบแทนและความเสี่ยงจากการลงทุนเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนในระยะยาวต่อสมาชิกกองทุนและตลาดทุนโดยรวม
แม้ปัจจุบันกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่รับปฏิบัติตาม I Code ยังมีสัดส่วน NAV ที่น้อยเมื่อเทียบกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทั้งหมด ก.ล.ต. หวังว่าจะมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพประกาศรับปฏิบัติตาม I Code เพิ่มมากขึ้นในอนาคต ซึ่งต้องขอชื่นชมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทั้ง 4 แห่งอย่างมากที่เป็นผู้ริเริ่มและพร้อมนำ I Code ไปปฏิบัติใช้ให้เกิดประโยชน์กับสมาชิกต่อไป”
นอกจากนี้ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่มีการปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลการลงทุนหรือ I Code ก็จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับสมาชิกได้ว่าคณะกรรมการกองทุนจะบริหารกองทุนโดยคำนึงถึงประโยชน์ของสมาชิกเป็นสำคัญ โดยหวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการผลักดันให้เกิดการสร้างวัฒนธรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งกับกองทุน สมาชิก และตลาดทุนไทยโดยรวมอย่างยั่งยืน
ณ สิ้นปี 2560 กองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) 1,082,619 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.23 จากปี 2559 โดยกองทุนที่ (1)-(4) มี NAV รวมกันประมาณ 76,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นร้อย 7 ของจำนวนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทั้งหมด