2 เมษายน 2561 : ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KTBST มองหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (2-5) ว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ จากความกังวลเกี่ยวกับสงครามทางการค้าของนักลงทุนที่ลดลง หลังจีนพร้อมที่จะเจรจากับสหรัฐเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า ขณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน กนง. ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% ตามคาด
พร้อมทั้งปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ในปีนี้ขึ้นเป็น 4.1% จากเดิมที่ 3.9% เนื่องจากการส่งออกและการท่องเที่ยวเติบโตดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่เพียงแต่เผชิญแรงกดดันจากปัจจัยต่างประเทศเท่านั้น แต่ยังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยในประเทศด้วย จากแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันย่อตัวลงจากตัวเลขรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ซึ่งออกมาสูงกว่าที่คาด ประกอบกับแรงขายจากหุ้นในกลุ่มธนาคารหลังประกาศยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมออนไลน์
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยด้านการเมืองจากความกังวลที่โรดแมพการเลือกตั้งจะถูกเลื่อนออกไป ดังนั้นปัจจัยลบต่างๆในตลาดเริ่มรับรู้ไปมาก ความเสี่ยงของตลาดเริ่มลดลง นักลงทุนยังคงติดตามปัจจัยในประเทศอยู่ต่อเนื่อง รวมทั้งผลจากการที่กลุ่มธนาคารทยอยออกโปรโมชั่น ค่า Fee 0% ออกมา
ทั้งนี้ คาดดัชนีฯ มีโอกาสรีบาวน์ Rebound เข้าหา 1,800 จุด แต่การเข้าลงทุนยังคงต้องพิจารณาเป็นรายตัว หรือเป็นลักษณะ Selective buyหุ้นที่แนะนำสำหรับการเก็งกำไรช่วงสัปดาห์ได้แก่ หุ้นกลุ่มแบงก์ที่ราคาปรับตัวลงมามากแต่ในเชิงปัจจัยพื้นฐานยังคงดีอยู่
โดยหุ้นที่แนะนำสำหรับการเก็งกำไรช่วงสัปดาห์นี้ได้แก่ หุ้นกลุ่มแบงก์ที่ราคาปรับตัวลงมามากแต่ในเชิงปัจจัยพื้นฐานยังคงดีอยู่ หรือหุ้นที่คาดจะรีบาวด์ ตามตลาดจากความกังวลเรื่องเลือกตั้งที่น่าจะลดลง อาทิ PTT , CPALL , LH , ADVANC นอกจากนี้ กลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ เติบโตตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศและการท่องเที่ยว อาทิ CPN, BDMS และ หุ้นที่มีลักษณะ Defensive มีอัตราปันผลตอบแทนสูง อาทิ PSH มองกรอบดัชนีในสัปดาห์นี้ที่ 1,760-1,800 จุด
สำหรับประเด็นที่ต้องติดตาม คือ การประกาศรายการสินค้าของสหรัฐฯที่จีนจะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า ในวันที่ 6 เมษายน และติดตามการรายงานตัวเลขอัตราการว่างงานเดือนมีนาคม โดยคาดว่าจะออกมาที่ 4% ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 4.1% พร้อมทั้งรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ด้านตลาดยุโรป ติดตามรายงานตัวเลขอัตราการว่างงานเดือนกุมภาพันธ์ของยุโรป ในวันที่ 4 เมษายน โดยคาดว่าจะออกมาที่ 8.5% ลดลงจากช่วงก่อนหน้าที่ 8.6%