WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันอังคาร ที่ 26 พฤศจิกายน 2567 ติดต่อเรา
จัดพอร์ต รับ”สังคมสูงวัย”

เรื่องของสังคมสูงวัย ถือยังเป็นเรื่องสำคัญที่ ใครๆจะละเลยเรื่องนี้ไม่ได้ และการจัดพอร์ตกับการลงทุนที่เกี่ยวเนื่องกับสังคมสูงวัยสำหรับนักลงทุน ควรเป็นไปในทิศทางใด ล่าสุด บทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า

เมื่อ “สังคมผู้สูงวัย” ไล่ต้อนโลกอนาคต รับมืออย่างไร ?

ประเด็น “สังคมผู้สูงอายุ” เป็นเรื่องที่หลายๆคนน่าจะได้รับรู้ข้อมูลมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 2–3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีการพูดถึงเรื่องนี้หนาหูมากขึ้น จึงเป็นสาเหตุที่นักลงทุนต้องอัพเดทข้อมูลอีกครั้งว่า สถานการณ์เหล่านี้ เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง

สว

ปัจจุบันแนวโน้มการขยายตัวของ “สังคมผู้สูงอายุ” หรือ “Aging Society” กำลังกลายเป็นประเด็นปัญหาระดับโลก ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจาก “การพัฒนาการแพทย์” ที่ส่งผลให้การรักษามีคุณภาพ ช่วยยืดชีวิตประชากรให้มีอายุยืนยาว “กระแสการรักสุขภาพ” ที่ช่วยให้ร่างกายดำรงสภาพความสมบูรณ์ดียิ่งขึ้นกว่าในยุคก่อน รวมถึง “อัตราการเกิดที่ลดลง” ทำให้ประชากรวัยเด็กมีสัดส่วนที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับผู้สูงอายุ ปัจจัยเหล่านี้กำลังกระตุ้นให้สังคมและผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องต้องรีบจัดการแก้ไขปัญหา รวมถึง “นักลงทุน” เองก็ควรจะเท่าทันกับสถานการณ์ เพื่อจะได้ตั้งรับกับการลงทุนให้ทันด้วย

ไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแบบสมบูรณ์ใน 3 ปี

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ระบุถึงประเด็น “Aging Society”ว่า ในอีก 3 ปีข้างหน้า ประเทศไทยกำลังจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุแบบสมบูรณ์ (Complete Aged Society) ขณะที่ปัจจุบันนี้ประเทศไทยมีประชากรผู้สูงอายุ 17.5% หรือ 11.6 ล้านคน ซึ่งถือเป็นอัตราที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง และไม่เพียงเท่านี้คาดว่าในปี 2574ประเทศไทยจะกลายเป็นสังคมสูงวัยระดับสุดยอด (Super Aged Society) ในที่สุด

ทั้งนี้ จากแนวโน้มดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีความต้องการลงทุนในบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ประกอบธุรกิจการแพทย์อย่างมาก เห็นได้จากกราคาหุ้นหลายโรงพยาบาลที่ปรับตัวขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (บจ.) เหล่านี้ ในระยะ 1 ปี (2559–2560) ส่วนใหญ่ยังคงเป็นไปในทิศทางเชิงบวก

อย่างไรก็ ตามบทวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ แนะนำ ว่า สำหรับการลงทุนในกลุ่ม การแพทย์ (HEALTHCARE) ยังคง “ขาดปัจจัยบวกในระยะสั้น” ดังนั้น จึงแนะนำให้ “ถือ” หุ้นบมจ. โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) และหุ้นบมจ. กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 206 บาท และ 22.8 บาท ตามลำดับ

แม้ว่าผลประกอบการปี 2560 จะดีขึ้นจากปีก่อนหน้า แต่หุ้นทั้ง 2 บริษัทซื้อขายในราคาที่แพงเมื่อเทียบกับภูมิภาค โดยมีปัจจัยหนุนจากการเติบโต และผู้ป่วยชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้หุ้น 2 บริษัทดังกล่าวมีอัพไซด์ที่จำกัด จากการใช้ EV/EBITDA ในการประเมินมูลค่าที่เหมาะสม

Vector illustration of Senior couple

BDMS : ปรับประมาณการปี 2561–2562 ลง

บล.ทิสโก้ ได้ปรับประมาณการของ BDMS ในปี 2561–2562 ลงสะท้อนการเติบโตของรายได้ที่อ่อนแอลง แม้ว่าค่ารักษาพยาบาลจะเพิ่มขึ้น โดยคาดว่ารายได้ในปี 2561 ของ BDMS จะเพิ่มขึ้น9.8% เทียบกับ 6% ในปี 2560 โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากปริมาณผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น YTD จากฤดูฝนที่มาเร็วกว่าปกติ และค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้น รวมถึงยังคงมูลค่าที่เหมาะสมของ BDMS ที่ 22.80 บาท อ้างอิง EV/EBITDA ที่ 24 เท่าสำหรับคาดการณ์ปี 2561 อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะปรับประมาณการลง แต่เชื่อว่าผลประกอบการจะเติบโตได้ 19% ในปีนี้

BH : มีโอกาสการปรับประมาณการขึ้น

จากการประชุมนักวิเคราะห์ BH ยังคงเป้าในการเติบโตของรายได้ที่ประมาณ 2% (เทียบกับปีก่อนหน้าที่ 2.4%) โดย BH จะรอดูการดำเนินงานในไตรมาส1/2561 ก่อนที่จะมีการปรับเป้าในการเติบโต เทียบกับ BDMS ที่ตั้งเป้าการเติบโต 2 เท่าของ GDP คิดเป็น 8% ทำให้เชื่อว่า ทั้ง BH และ BDMS จะมีการปรับเป้ารายได้เพิ่มขึ้น หลังรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2561 มูลค่าที่เหมาะสมอ้างอิง EV/EBITDA

บล.ทิสโก้ ประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของ BH และ BDMS สำหรับปี 2561 โดยใช้ EV/EBITDA ที่ +0.5std สำหรับ BH และ +1std สำหรับ BDMS หนุนโดยการเติบโตที่แข็งแกร่ง และคิดเป็น 22 และ 24 เท่าตามลำดับ โดยมองว่าโรงพยาบาลไทยมีพรีเมี่ยมเล็กน้อยเมื่อเทียบกับคู่แข่งมีความเหมาะสมแล้วเมื่อเทียบกับการเติบโตเชิงโครงสร้าง และการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์

ยุโรปกับภาวะสังคมสูงวัย

ไม่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้น ประชากรผู้สูงอายุในยุโรปก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน จนทำให้มีการคาดการณ์ว่าอีก 30 ปีข้างหน้า จำนวนผู้สูงอายุในทวีปยุโรปจะเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น เมื่อเทียบกับทวีปอื่น ดังนั้น การลงทุนในทวีปนี้ผ่านกองทุนรวมประเภท Silver Age ซึ่งเกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าว ก็ถือมีความโดดเด่นที่น่าสนใจในหลายมิติ เช่น

มีหุ้นให้เลือกลงทุนมากกว่าหุ้นกลุ่มการแพทย์ ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มเวชภัณฑ์ , อุปกรณ์ทางการแพทย์ และอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายของประชากรสูงอายุ สามารถลงทุนในระยะยาวได้ เนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าวยังมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนักลงทุนที่ต้องการลงในหุ้นเพื่อให้ทันต่อกระแส “สังคมผู้สูงอายุ” ก็สามารถเลือกลงทุนในกองทุนรวมในหุ้นประเภทนี้ได้

ซึ่งบลจ.ทิสโก้ ประเมินว่า การลงทุนธุรกิจกลุ่มนี้ เป็น Theme ที่เหมาะกับการลงทุนระยะยาว สังคมผู้สูงอายุ กำลังไล่ต้อนเข้ามาแบบกระชั้นชิด ถึงเวลาแล้วที่จะต้องประเมินข้อมูลอย่างรอบด้าน ทั้งการลงทุนหุ้นไทย และกองทุนในหุ้นต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับกระแสเหล่านี้ เพื่อให้สามารถจัดพอร์ตได้อย่างเหมาะสม logo เล็ก (ปิดท้ายข่าว)

การเงิน ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP