16 มีนาคม 2561 : นายอมร ทองธิว กรรมการบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันศูนย์การค้าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน คนนิยมใช้บริการศูนย์การค้ากันมากขึ้นเรื่อยๆ บริษัทเล็งเห็นในจุดนี้ จึงมีการเสริมสาขาในศูนย์การค้าเข้ามา เพื่อให้บริการลูกค้าได้ทั่วถึงมากขึ้น โดยเปิดสาขาในศูนย์การค้ามาแล้ว 10 สาขา ซึ่งทั้ง 10 สาขาในศูนย์การค้านั่นได้เพิ่มยอดขายให้บริษัท 3 ล้านบาทต่อเดือน
ทั้งนี้ ปัจจุบันบุคคลที่เห็นประโยชน์และมีกำลังซื้อประกันจะเป็นบุคคลที่อายุผระมาณ 40 ปีขึ้นไป แต่เมื่อเข้ามาเปิดสาขาในศูนย์การค้าบริษัทคาดว่าจะได้รับความสนใจ และเข้าใกล้กลุ่มอายุประมาณ 30-40 ปี
“ยอดขายจากสาขาในศูนย์การค้ายังไม่มากนัก เนื่องจากเพิ่งเริ่มต้นไม่นานนัก ต้องใช้พอเวลาพอสมควร แต่บริษัทหวังว่าการเปิดสาขาในศูนย์การค้าจะทำให้เข้าใกล้ลูกค้าช่วงอายุประมาณ 30-40 ปี จากเดิมที่ฐานหลักของลูกค้าประกันจะเป็นช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป” นายอมร กล่าว
ล่าสุด บริษัทฯ เปิดตัว “วิริยะประกันภัย สาขา Central World” (V-Station No.11) ซึ่งตั้งอยู่ ณ ศูนย์การค้า Central World ชั้น 4 โซนเบคอน (Beacon) ถนนราชดำริ แขวง ปทุมวัน เขต ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในการรับบริการด้านประกันวินาศภัยอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการในด้านผลิตภัณฑ์ทั้งมอเตอร์และนอนมอเตอร์ อาทิ ประกันภัยด้านรถยนต์ ประกันภัยด้านอัคคีภัย ประกันภัยด้านทะเลและขนส่ง รวมถึงการให้บริการสอบถามด้านเคลมสินไหม การชำระค่าเบี้ยประกันภัย และอื่นๆ ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงมีแผนที่ขยายจุดบริการฯ ไปอย่างต่อเนื่อง โดยจะขยายไปยังพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคอีสาน นอกจากนี้ มีความสนใจที่จะไปเปิดสาขาในศูนย์การค้าทางภาคใต้ด้วย
นอกจากนี้ บริษัทยังได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการด้านสินไหมและรับประกัน เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็วให้กับผู้เอาประกันภัย ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีนโยบายเพิ่มจำนวนสาขา และศูนย์บริการสินไหมให้ครอบคลุมทุกพื้นที่สำคัญทั่วประเทศ
อนึ่ง การให้บริการประกันภัยภายในห้างสรรพสินค้านั้น บริษัทฯ ได้มีการเปิดสาขาในพื้นที่ศูนย์การค้ามาแล้ว 10 แห่งด้วยกัน ได้แก่ เดอะมอลล์บางแค, เดอะมอลล์บางกะปิ, เดอะมอลล์โคราช, เมกาบางนา, เซ็นทรัลพระราม 2, เซ็นทรัลศาลายา, เซ็นทรัลสุราษฎร์ธานี, เซ็นทรัลหาดใหญ่, เซ็นทรัลเชียงใหม่ และ เซ็นทรัลเชียงราย โดยได้ปรับปรุงพัฒนาภาพลักษณ์ให้มีความทันสมัย ไปพร้อมกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงการพัฒนาศักยภาพการบริการ เพื่อให้ทันต่อเทคโนโลยีที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ “นวัตกรรมบริการประกันภัย 4.0” ที่บริษัทฯ กำลังดำเนินการพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่องในขณะนี้
อีกทั้งยังเป็นการรองรับการขยายตัวของชุมชนเมือง และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่โดยรอบ นอกจากนี้การบริการในรูปแบบดังกล่าวยังทำให้สามารถเข้าถึงและใกล้ชิดกับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น และยังเป็นการช่วยสนับสนุนการทำงานของตัวแทน ทำให้ผู้เอาประกันภัยเกิดความเชื่อมั่นและไว้วางใจในการใช้บริการผ่านตัวแทนของบริษัทฯ อีกด้วย