2 มีนาคม 2561 : บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานผลการดำเนินงานที่เติบโต และสามารถทำกำไรได้ 5.4 พันล้านบาทในไตรมาส 4 และ 2.3 พันล้านบาท สำหรับทั้งปี 2560 อันเป็นผลจากรายได้และ EBITDA ที่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งจนเป็นจำนวนสูงสุดในประวัติการณ์ รวมทั้งความต่อเนื่องในการลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานทั่วทั้งองค์กร และผลสำเร็จจากการจำหน่ายสินทรัพย์ให้แก่กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผล จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 1 พันล้านบาท คิดเป็น 0.031 บาทต่อหุ้น โดยจะนำเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในเดือนเมษายนนี้
ในปี 2560 กลุ่มทรู มีรายได้จากการให้บริการโดยรวมเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 10 จากปีก่อนหน้า เป็นจำนวน 97.0 พันล้านบาท จากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของทั้งธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และธุรกิจบรอดแบนด์ อินเทอร์เน็ต ในขณะที่ EBITDA ของกลุ่มเติบโตอย่างมีนัยสำคัญถึงร้อยละ 59 จากปีก่อนหน้า เป็น 39.9 พันล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมกำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ให้แก่กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (Digital Telecommunications Infrastructure Fund หรือ DIF) EBITDA ของกลุ่มทรู เพิ่มขึ้นร้อยละ 36 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เป็นจำนวน 34.0 พันล้านบาท
รายได้และ EBITDA ที่มีจำนวนสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์นี้ ผนวกกับความมุ่งมั่นในการลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานทั่วทั้งองค์กร และผลสำเร็จจากการจำหน่ายสินทรัพย์ให้แก่กองทุน DIF ส่งผลให้กลุ่มทรู รายงานผลกำไรสุทธิจำนวน 2.3 พันล้านบาท ในปี 2560 พร้อมเติบโตสร้างผลกำไรอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป
นายวิเชาวน์ รักพงษ์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) ด้านปฏิบัติการ กล่าวว่า “การเดินหน้าสร้างเครือข่ายประสิทธิภาพสูงสุดทั่วประเทศด้วยมาตรฐานระดับโลกและเทคโนโลยีอันล้ำสมัย พร้อมเพิ่มประสบการณ์การใช้งานของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง การปลูกฝังแนวคิดด้านดิจิทัล และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในองค์กรเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้กลุ่มทรู มีความพร้อม และสามารถปรับตัวให้รองรับความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ ควบคู่ไปกับการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในหลากหลายด้านทั่วทั้งองค์กร จะสร้างรากฐานอันแข็งแกร่งให้กลุ่มทรู ก้าวเติบโตต่อไปในปี 2561 นี้ และตลอดไป”
ดร. กิตติณัฐ ทีคะวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) ด้านการพาณิชย์ กล่าวว่า ในปี 2560 ที่ผ่านมา ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลุ่มเติบโตสูงเหนืออุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก และทรูมูฟ เอช เป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวที่มีฐานลูกค้าเติบโต โดยมีจำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิ 2.7 ล้านราย ในขณะที่ผู้ให้บริการรายใหญ่รายอื่นมีฐานลูกค้ารวมกันลดลงสุทธิ 2.8 ล้านราย ทำให้รายได้จากการให้บริการของทรูมูฟ เอช เติบโตสูงถึงร้อยละ 17.3 จากปีก่อนหน้า ซึ่งผลักดันให้รายได้จากการให้บริการของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของทั้งอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตรายปีที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2557
ในขณะเดียวกัน ธุรกิจบรอดแบนด์ อินเทอร์เน็ตของทรูออนไลน์ ยังคงเติบโตแข็งแกร่ง โดยทั้งรายได้บรอดแบนด์สำหรับกลุ่มลูกค้าทั่วไปและฐานผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นสูงในอัตราเลขสองหลักจากปีก่อนหน้า อันเป็นผลจากความตั้งใจที่จะมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าผ่านแคมเปญไฟเบอร์และการปรับเพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ต จนปัจจุบันลูกค้าบรอดแบนด์ของทรูออนไลน์ล้วนใช้บริการบนโครงข่าย FTTx
อีกทั้ง ทรูวิชั่นส์ มุ่งเน้นในการคัดสรรคอนเทนต์คุณภาพครบถ้วน เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถรับชมผ่านหลากหลายแพลตฟอร์ม ตอกย้ำความเป็นผู้นำคอนเวอร์เจนซ์ของกลุ่มทรู อย่างแท้จริง นอกเหนือจากการสรรหามูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่องแล้ว กลุ่มทรู ยังให้ความสำคัญกับคอนเทนต์ดิจิทัลและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ภายใต้ TrueID การสร้างสรรนวัตกรรม และโซลูชั่น Internet of Things หรือไอโอที ซึ่งจะเป็นรากฐานอันสำคัญให้กลุ่มทรู คงความเป็นที่หนึ่งในใจลูกค้าและเติบโตอย่างเข้มแข็งในยุค Thailand 4.0
จุดแข็งของทรูมูฟ เอช ด้านเครือข่ายประสิทธิภาพสูงสุดและครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะบริการ 4.5G/4G ตอบโจทย์ความต้องการใช้บริการโมบาย อินเทอร์เน็ตและสตรีมมิ่งของผู้บริโภคได้ตรงจุด อีกทั้งการมุ่งนำเสนอแคมเปญดีไวซ์ที่คุ้มค่าร่วมกับค่าบริการและแพ็กเกจด้านดาต้าของทรูมูฟ เอช ได้รับผลตอบรับอย่างล้นหลามทั้งในกลุ่มลูกค้าระบบรายเดือนและระบบเติมเงิน ทำให้ทรูมูฟ เอช เติบโตสูงและมีจำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิ 2.7 ล้านราย ในปี 2560 ซึ่งขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้นเป็น 27.2 ล้านราย ประกอบด้วยลูกค้าระบบเติมเงิน 20.3 ล้านราย และลูกค้าระบบรายเดือน 6.9 ล้านราย
โดยรายได้จากบริการนอนวอยซ์ที่เพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 24.7 ส่งผลให้รายได้จากการให้บริการของทรูมูฟ เอช เติบโตร้อยละ 17.3 ในปี 2560 ซึ่งผลักดันให้รายได้จากการให้บริการของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของทั้งอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7 เมื่อเทียบกับปี2559 ในขณะที่รายได้จากการให้บริการของผู้ให้บริการรายใหญ่รายอื่นรวมกันเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 2.1 จากปีก่อนหน้า และมีแนวโน้มที่รายได้จะเติบโตต่อไป ตามความต้องการใช้งานดาต้าของผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทรูออนไลน์ เร่งขยายโครงข่ายไฟเบอร์อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ในปี 2560 ทรูออนไลน์ มีฐานลูกค้าบรอดแบนด์ อินเทอร์เน็ต เพิ่มขึ้นสุทธิมากกว่า 385,000 ราย เป็น 3.2 ล้านราย ณ สิ้นปี ซึ่งล้วนใช้บริการบนโครงข่าย FTTx ทั้งสิ้น
ทรูวิชั่นส์ ยังคงมุ่งมั่นในการเพิ่มประสบการณ์การรับชมโทรทัศน์ของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นปี 2560 ทรูวิชั่นส์มีฐานลูกค้ารวมทั้งสิ้นเป็น 4.0 ล้านราย