24 กุมภาพันธ์ 2561 : ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า จากนโยบายยกระดับมาตรฐานพฤติกรรมทางการตลาดของธุรกิจประกันภัย โดยการพัฒนาช่องทางการจำหน่าย ส่งเสริมและกำกับดูแลให้ตัวแทน/นายหน้าประกันภัยมีมาตรฐานจรรยาบรรณและแนวปฏิบัติที่ดีในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยต่อประชาชน ตลอดจนดูแลประชาชนผู้เอาประกันภัยภายหลังที่มีการขายผลิตภัณฑ์ประกันภัย
เพื่อให้ประชาชนในวงกว้างเกิดความเชื่อมั่นในระบบประกันภัยและใช้ประโยชน์จากระบบประกันภัยได้อย่างเพียงพอและทั่วถึง ส่งผลให้ปี 2560 ธุรกิจประกันชีวิตมีเบี้ยประกันชีวิตรับโดยตรงผ่านช่องทางการขายจาก ตัวแทน ธนาคาร โทรศัพท์ นายหน้า ไปรษณีย์ และช่องทางอื่น รวมทั้งสิ้น 608,666 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 7.23 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งช่องทางการขายผ่าน “ตัวแทน” ยังครองแชมป์มีเบี้ยประกันชีวิตรับโดยตรงสูงสุด จำนวน 302,401 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 49.68 ของเบี้ยประกันชีวิตรับโดยตรงรวมทุกช่องทาง
โดยช่องทางการขายผ่านตัวแทนมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 5.32 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รองลงมาคือช่องทางการขายผ่าน “ธนาคาร” มีเบี้ยประกันชีวิตรับโดยตรง จำนวน 268,538 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 44.12 ของเบี้ยประกันชีวิตรับโดยตรงรวมทุกช่องทาง โดยช่องทางการขายผ่านธนาคารมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 10.12
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่การขายผ่านช่องทาง “นายหน้า” มีเบี้ยประกันชีวิตรับโดยตรง จำนวน 16,627 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 2.73 ของเบี้ยประกันชีวิตรับโดยตรงรวมทุกช่องทาง โดยช่องทางการขายผ่านนายหน้ามีอัตราการขยายตัวร้อยละ 13.38 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับธุรกิจประกันวินาศภัยมีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงผ่านช่องทางการขายจาก นายหน้า ธนาคาร ตัวแทน องค์กร ติดต่อโดยตรง โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต ไปรษณีย์ และช่องทางอื่น รวมทั้งสิ้น 218,932 ล้านบาท ขยายตัว ร้อยละ 3.20 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งช่องทางการขายผ่าน “นายหน้า” ยังคงมีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงสูงสุด จำนวน 126,550 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 57.80 ของเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวมทุกช่องทาง โดยช่องทางการขายผ่านนายหน้ามีอัตราการขยายตัวร้อยละ7.42
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รองลงมาคือช่องทางการขายผ่าน “ตัวแทน” มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรง จำนวน 31,683 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 14.47 ของเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวมทุกช่องทาง โดยช่องทางการขายผ่านตัวแทนมีการหดตัวอยู่ที่ร้อยละ 8.75 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และการขายผ่านช่องทาง “ธนาคาร” มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงเป็นอันดับ 3 จำนวน 28,841 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 13.17 ของเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวมทุกช่องทาง โดยช่องทางการขายผ่านธนาคารมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 4.15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนตามลำดับ