ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics คาด ECB จะมีมติ “คง” อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0% และ “คง” ปริมาณการซื้อสินทรัพย์ที่ 8 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนในการประชุมวันพฤหัสนี้ ขณะที่ค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าในกรอบ 34.9-35.3 บาท/ดอลลาร์ และตลาดการเงินโลกที่ยังปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) จะส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติยังคงให้ความสนใจซื้อบอนด์ไทยอยู่
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการจีนรายงานจีดีพีไตรมาสแรก ขยายตัวตามคาดขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจทางฝั่งสหรัฐฯ ออกมาไม่ค่อยดีนัก โดยจีดีพีของจีนในไตรมาสที่ 1/2016 ขยายตัวได้ 6.7% สะท้อนว่า เศรษฐกิจจีนไม่ได้มีแนวโน้มตกต่ำอย่างที่หลายฝ่ายคาด ขณะที่ยอดค้าปลีกในเดือนมีนาคมของสหรัฐฯ ยังหดตัว 0.3% ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐฯ ขยายตัวได้เพียง 0.1% สะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน
ในสัปดาห์นี้ ศูนย์วิเคราะห์ฯ มีความเห็นว่าการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเป็นประเด็นที่ตลาดให้ความสนใจมากที่สุด โดยคาดว่า ECB จะมีมติ “คง” อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0% และ “คง” ปริมาณการซื้อสินทรัพย์ที่ 8 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนในการประชุมวันพฤหัสนี้ หลังจากที่ออกมาผ่อนคลายนโยบายการเงินมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ในการประชุมครั้งก่อนหน้า
นอกจากนี้ ประธานธนาคารกลางยุโรปยังออกมาส่งสัญญาณว่า การใช้นโยบายการเงินมีข้อจำกัดและอาจต้องการนโยบายการคลังเพิ่มเติมเพื่อมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจยุโรป ด้านตัวเลขที่น่าสนใจอื่น ๆ ในสัปดาห์ ตัวเลขยอดสร้างบ้านใหม่ของสหรัฐฯ (Housing Starts) ในเดือนมีนาคมคาดว่าจะยังอยู่ในระดับ 1.16 ล้านหลัง ซึ่งถือว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มสดใสค่าเงินบาทแกว่งตัวแคบ ๆ ในช่วงสัปดาห์สงกรานต์ที่ผ่านมา โดยมีกรอบการซื้อขายอยู่ในช่วง 34.9-35.2 บาท/ดอลลาร์ และซื้อขายที่ระดับ 35.02 บาท/ดอลลาร์ในสิ้นวันศุกร์
ปัจจัยที่เป็นตัวแปรสำคัญ ในตลาดเงินภูมิภาคในสัปดาห์ที่ผ่านมาคือ การที่ธนาคารกลางสิงคโปร์ผ่อนคลายนโยบายการเงิน เพิ่มเติมด้วยการปรับลงเป้าหมายการแข็งค่าของดอลลาร์สิงคโปร์ลงเหลือ 0% ส่งผลให้ค่าเงินในภูมิภาคอ่อนค่าลง อย่างไรก็ตามกระแสเงินการเทขายดอลลาร์จากความกังวลบนเศรษฐกิจสหรัฐและราคาน้ำมันที่เริ่มปรับตัวขึ้น ยังส่งผลให้เงินทุนยังไหลเข้าสู่ภูมิภาคอาเซียนและตลาดเกิดใหม่ต่าง ๆ อยู่
สำหรับสัปดาห์นี้การประชุม ECB ในวันพฤหัสจะเป็นเหตุการณ์ที่ผู้ค้าในตลาดเงินจับตามองมากที่สุด แม้ว่า ECB อาจยัง “คง” ดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0% อยู่ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ ECB อาจออกมาให้ความเห็นว่าค่าเงินยูโรแข็งค่าเกินไปเนื่องจากค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นถึงราว 5% ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาแม้ว่า ECB จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมแล้ว และสำหรับสัปดาห์นี้เราคาดว่าดอลลาร์สหรัฐจะซื้อขายในช่วง 34.9-35.3 บาท ยูโรอยู่ที่ในช่วง 38.4-39.8 บาท และค่าเงินเยนอยู่ในช่วง 31-32 บาท/ร้อยเยน โดยค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าต่อไป
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ยังทรงตัวที่กระดับ 1.76% ในขณะที่บอนด์ยิลด์ ไทยอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นจากระดับ 1.66% มาอยู่ที่ระดับ 1.72% หรือเพิ่มขึ้น 6bps เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อบอนด์ยิลด์ไทยคือการที่กองทุนในประเทศเริ่มออกมาขายตราสารหนี้ระยะยาวที่มีราคาสูงและกลับไปถือบอนด์ระยะสั้นที่มีความเสี่ยงต่ำกว่าแต่ผลตอบแทนใกล้เคียงกันแทน
อย่างไรก็ตามยังคาดว่าตลาดการเงินโลกที่ยังปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) จะส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติยังคงรอซื้อบอนด์ไทยอยู่จากความคาดหวังว่า กนง. จะต้องลดดอกเบี้ยลงในท้ายที่สุดอยู่ ในสัปดาห์นี้เราคาดว่าการประชุม ECB อาจเป็นปัจจัยที่จะสร้างความผันผวนในตลาด แม้บอนด์ยิลด์ในยุโรปจะอยู่ในระดับต่ำมาก แต่ถ้า ECB ยังไม่มีนโยบายที่จะหยุดการทำ QE เร็ว ๆ นี้ก็ยังมีโอกาสที่นักลงทุนจะยังเข้าซื้อเก็งกำไรตราสารหนี้ต่อไป และสำหรับสัปดาห์นี้ คาดว่ายิลด์พันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10ปี จะอยู่ในช่วง 1.60-1.80%