19 กุมภาพันธ์ 2561 : นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้มูลค่าราว 1.2-1.5 หมื่นล้านบาทภายในปีนี้ เพื่อล็อคต้นทุนและชดเชยหุ้นกู้ชุดเดิมที่จะครบกำหนดไถ่ถอน และอีกส่วนหนึ่งจะนำมาขยายธุรกิจต่อไป
ขณะที่ภาพรวมทิศทางดอกเบี้ยตลาดโลกเป็นขาขึ้น แต่ก็เชื่อว่านายเจโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่มีนโยบายที่จะไม่ขึ้นดอกเบี้ยแรงอย่างที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา บริษัทก็พยายามรีไฟแนนซ์หุ้นกู้ที่จะทยอยครบกำหนดในระยะเวลาที่ยาวขึ้น เพื่อรับประโยชน์จากดอกเบี้ยที่ลดลง
พร้อมกับคาดว่าในปี 61 จะมีการตั้งสำรองลดลงจากปีที่แล้วที่ได้ตั้งสำรองค่อนข้างมากมาตลอด และภายใต้มาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS9 เชื่อว่าสำรองที่มีอยู่มากเกินพอ อีกทั้งคุณภาพของลูกหนี้ที่ดีขึ้น ซึ่งหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในปีก่อนลดลงเหลือราว 1.3% จากผลงานของ outsource ที่ทำให้ดีกว่าคาด อีกทั้งมีส่วนช่วยค่อนข้างมากจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีประกาศเกี่ยวกับข้อกำหนดคุณภาพของลูกหนี้ที่จะเข้ามาใหม่ในระบบ
นอกจากนี้ กรณีที่ราคาหุ้น KTC ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างสูงในช่วงที่ผ่านมา มองว่าเป็นเรื่องของการที่มีคนซื้อมากกว่าคนขาย ทั้งนี้บริษัทไม่มีนโยบายการแตกมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) แต่อย่างใด เนื่องจากบริษัทเน้นทางด้านการบริหารและผลงานมากกว่า โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการถือหุ้นโดย ธนาคารกรุงไทย (KTB) 49.45% และ นายมงคล ประกิตชัยวัฒนา 16.3%
ด้านนายมงคล ประกิตชัยวัฒนา ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ KTC เปิดเผยว่า ได้เคยมีการเสนอต่อคณะกรรมการบริหารเรื่องการแตกพาร์ก่อนหน้านี้มาแล้ว และด้วยราคาหุ้นที่สูงอาจทำให้สภาพคล่องมีน้อย อย่างไรก็ตามปัจจุบันยังมีเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเข้าถึงได้สะดวกในราคาที่ต่ำกว่า อาทิ ตราสารอนุพันธ์ (DW) แต่ทั้งนี้อาจมีความเสี่ยงตามมาด้วย