13 กุมภาพันธ์ 2561 :วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะภายหลังประธานาธิบดีทรัมป์เตรียมเปิดเผยโครงการโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อฟื้นฟูสาธารณูปโภคภายในประเทศและกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ
อีกทั้งปัจจัยหนุนในประเทศจากที่ภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง ล่าสุดที่ประชุมสนช.ผ่านร่างกฏหมายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) สร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น และคาดว่าที่ประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 14 ก.พ.จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม 1.50% เพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ
อย่างก็ตามยังคงต้องจับตา วันที่ 14 ก.พ.2561 จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และในส่วน อียู มีกำหนดเปิดเผย GDP ไตรมาส 4/2560 รวมทั้งสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีก รวมทั้งดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค.สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนธ.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ ส่วนในวันที่ 15 ก.พ. สหรัฐ จะเปิดเผย จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.พ.ดัชนีราคาผู้บริโภค (PPI) และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค. และวันที่ 19 ก.พ. สภาพัฒน์จะแถลงตัวเลข GDP ไตรมาส 4/60
ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,760-1,820 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไร หุ้นที่มีปัจจัยบวก เช่น หุ้น TVO ได้ประโยชน์จากราคากากถั่วเหลืองปรับขึ้นติดต่อกัน 5 วันทำการกว่า 7% หุ้น GPI คาดผลการดำเนินงานปี 61 เติบโตอย่างน้อย 11% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการปรับขึ้นค่าเช่าใช้บริการและยังคาดหวัง Upside ส่วนเพิ่มในประมาณการจากโอกาสในการเป็นผู้จัดงาน Motor Show ในประเทศเมียนมาร์ และงาน Air Race 1 ครั้งที่ 3