จ.จันทบุรี 5 กุมภาพันธ์ 2561 : นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลัง ร่วมประชุมมอบนโยบายและติดตามการดำเนินงาน “โครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบสำหรับผู้มีรายได้น้อยในจังหวัดจันทบุรี” พร้อมกับมอบใบอนุญาตประกอบกิจการสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ แก่ผู้ประกอบการในจังหวัดจันทบุรีและใกล้เคียง และมอบสินเชื่อรายย่อยเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินให้แก่ตัวแทนเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. และลูกค้าธนาคารออมสินว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำให้แก่ผู้มีรายได้น้อย ต้องการให้ประชาชนทุกคนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หลุดพ้นจากความยากจน ขอให้ประชาชนอย่ากลับไปเป็นหนี้นอกระบบอีก
ด้าน นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า การดำเนินงานตามมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในครั้งนี้ ธ.ก.ส. ได้มีการวางแผนตั้งแต่การประชาสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย จ้างลูกจ้างเข้ามาดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ มีการแต่งตั้งผู้ดูแลผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (Account Officer: AO) คอยให้คำแนะนำช่วยเหลือแก้ไขปัญหา ติดตามการพัฒนาอาชีพและคุณภาพชีวิตเป็นรายบุคคล พร้อมทั้งประสานความร่วมมือจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กองทุนหมู่บ้าน เพื่อเปิดจุดบริการถึงในชุมชนให้กับผู้มีรายได้น้อยได้รับความสะดวกและประหยัด
ค่าใช้จ่าย จัดตั้งห้อง War Room และ Call Center เพื่อติดตามรายงานผลการดำเนินงาน โดย ธ.ก.ส.สาขาร่วมกับ ปรจ.(ทีมหมอประชารัฐสุขใจ) เข้าไปพบปะผู้มีรายได้น้อยทุกราย โดยกำหนดแผนในแต่ละพื้นที่ เริ่มช่วง เดือนกุมภาพันธ์ จัดทีมลงพื้นที่สัมภาษณ์เป็นรายบุคคลเพื่อวิเคราะห์แนวทางการพัฒนา ประสานงานและบูรณาการกับส่วนงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการพัฒนาเป็นรายบุคคล ในช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม และติดตามประเมินผลเพื่อรายงานคณะทำงานเป็นระยะ ในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน 2561 โดย ธ.ก.ส.ลงพื้นที่ดำเนินงานไม่มีวันหยุด ทั้งวันเสาร์อาทิตย์
โครงการตามมาตรการดังกล่าว ธ.ก.ส.พร้อมให้การสนับสนุนด้านสินเชื่อเพื่อสร้างอาชีพ รวมถึงการเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการ SME เกษตร ที่เป็นหัวขบวนในการรับซื้อผลผลิตจากผู้มีรายได้น้อย เพื่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพในชุมชน ตัวอย่างเช่นในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี มีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ผลิตพืชสมุนไพรบ้าน เกาะลอย วิสาหกิจชุมชนเพาะเห็ดและแปรรูปเห็ดบ้านไร่เก่า และ บริษัทบีฟรุ๊ต (Bee Fruits) ผู้ผลิตและแปรรูปผลไม้ ที่นำมาจัดแสดงในงานครั้งนี้
ทั้งนี้ ผู้ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐที่เป็นเกษตรกร จำนวน 3,959,030 ราย ลงทะเบียนสวัสดิการรัฐทั้งหมด มีหนี้นอกระบบ จำนวน 448,496 ราย มูลหนี้เฉลี่ยต่อราย 59,520 บาท ธ.ก.ส.ได้ให้สินเชื่อแก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 977,613 ราย เป็นเงินจำนวน 193,760 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นการให้สินเชื่อเพื่อแก้ไขและป้องกันปัญหาหนี้นอกระบบ จำนวน 79,662 ราย เป็นเงินจำนวน 4,499.69 ล้านบาท
สำหรับการแสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้มีบัตรสวัสดิการซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน คนไทยไม่ทิ้งกัน ของกระทรวงมหาดไทย นั้น เริ่มให้แสดงความประสงค์ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นต้นมา ผลการดำเนินงานลงทะเบียนของผู้มีรายได้น้อยที่แสดงความประสงค์ต้องการพัฒนาอาชีพ ณ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 มีผู้แสดงความประสงค์แล้ว 103,436 ราย โดย ธ.ก.ส.จะดำเนินการสัมภาษณ์รายคนเพื่อหาแนวทางเพิ่มรายได้ที่เหมาะสมต่อไป
ส่วนในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี มีเกษตรกรผู้ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 10,322 ราย เป็นเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้นอกระบบ 1,061 ราย มูลหนี้ 60.26 ล้านบาท เฉลี่ยต่อราย 56,798 บาท ซึ่ง ธ.ก.ส ได้เข้าไปช่วยเหลือลดภาระหนี้สินให้กับเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีแล้ว 101 ราย เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 24.43 ล้านบาท ด้วยการให้สินเชื่อแก้ไขหนี้นอกระบบ สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน และสินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพเสริมเพิ่มรายได้