นายพิชา สิริโยธิน ผู้อำนวยการบริหารสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ธุรกิจประกันชีวิตทั้งระบบมีเบี้ยประกันรับรวมทั้งสิ้น 89,301.82 ล้านบาท อัตราการเติบโต เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4.86 แบ่งเป็น เบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่จำนวน 25,613.03 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.39 และเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อไป 63,688.79 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 5.04 มีอัตราความคงอยู่ร้อยละ 82
โดยเบี้ยประกันชีวิตรายใหม่ ซึ่งประกอบด้วย เบี้ยประกันชีวิตปีแรก มีจำนวน 18,751.22 ล้านบาท อัตราการเติบโตร้อยละ 7.22 และ เบี้ยประกันชีวิตจ่ายครั้งเดียว 6,861.81 ล้านบาท อัตราการเติบโตลดลงร้อยละ 2.62
ในการพิจารณาข้อมูลสถิติของธุรกิจประกันชีวิต สมาคมจะพิจารณาแยกเป็น 2 กรณี คือ ประการแรกจะพิจารณาถึงขนาดของบริษัท และประการที่สอง จะพิจารณาถึงการขยายงานของบริษัท จากสถิติเบี้ยประกันชีวิตรับ เดือนกุมภาพันธ์ของปี 2559 มีดังนี้เบี้ยประกันชีวิตรับรวม เดือนกุมภาพันธ์ 2559 ทั้งสิ้น 89,301.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 4.86 บริษัทประกันชีวิตที่มีเบี้ยประกันชีวิตรับรวมสูงสุด 7 อันดับ ได้แก่ บจ.เอไอเอ มีเบี้ยจำนวน 17,642.32 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 19.76 อันดับที่ 2 บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต 16,661.95 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 18.66
อันดับที่ 3 บมจ.ไทยประกันชีวิต 11,331.91 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 12.69 อันดับที่ 4 บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต 9,852.32 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 11.03 อันดับที่ 5 บมจ.ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต 8,154.75 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 9.13 อันดับที่ 6 บมจ.กรุงไทย แอกซ่า ประกันชีวิต 7,645.79 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 8.56 และ
อันดับที่ 7 บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำนวน 5,022.46 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 5.62
รวม 7 อันดับแรก ครองสัดส่วนการตลาดร้อยละ 85.45 และอีก 15 บริษัทที่เหลือครองสัดส่วนการตลาด ร้อยละ 14.55
สำหรับ เบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ เดือนกุมภาพันธ์ 2559 มีทั้งสิ้น 25,613.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 4.39 บริษัทประกันชีวิตที่มีเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่สูงสุด หรือมีการขยายงานสูงสุด 7 อันดับแรก คือ อันดับที่ 1 บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต มีเบี้ยรับจำนวน 6,177.33 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 24.12 อันดับที่ 2 เอไอเอ 4,024.90 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 15.71
อันดับที่ 3 บมจ.กรุงไทย แอกซ่า ประกันชีวิต 2,745.12 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 10.72 อันดับที่ 4 บมจ.ไทยประกันชีวิต 2,697.56 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 10.53 อันดับที่ 5 บมจ.ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต 2,090.80 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 8.16 อันดับที่ 6 บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต 1,716.79 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 6.70 และ อันดับที่ 7 บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต 1,277.26 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 4.99
ส่วนเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อไปที่มีจำนวน 63,688.79 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.04 โดยมีอัตราความคงอยู่ร้อยละ 82 ถือว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างดี แสดงถึงผู้เอาประกันชีวิตให้ความสำคัญของการประกันชีวิต
ผู้อำนวยการบริหารสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ปี 2558 เศรษฐกิจไทยขยายตัวร้อยละ 2.8 ปรับตัวดีขึ้นชัดเจนจากร้อยละ 0.8 ในปี 2557 และจากการคาดการณ์ของสศช.
แนวโน้มปี 2559 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ 2.8-3.8 จากปัจจัยสนับสนุนการเร่งเบิกจ่ายเม็ดเงินการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ และจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลทำเพิ่มเติมในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อมากขึ้น ดังนั้น อาจจะส่งผลให้ธุรกิจประกันชีวิตเติบโตขึ้นเช่นเดียวกัน สมาคมจึงคาดว่าเบี้ยประกันภัยรับรวมในปี 2559 จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประมาณร้อยละ 9 ด้วยเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งระบบมีไม่น้อยกว่า 585,700 ล้านบาท