ทีซีซี เทคโนโลยี (TCCT) ผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานไอทีชั้นนำของไทยประกาศความร่วมมือกับอินเทอร์เน็ต อินิชิเอทีฟ เจแปน (IIJ) หนึ่งในผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและคลาวด์สำหรับองค์กร (Enterprise Cloud) รายใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นตั้งบริษัทร่วมทุน ภายใต้ชื่อบริษัท ลีพ โซลูชั่นส์ เอเชีย จำกัด (Leap Solutions Asia Co., Ltd.) เพื่อให้บริการคลาวด์เต็มรูปแบบในไทย หนุนไทยเป็นผู้นำตลาดคลาวด์ในเอเชียภายใน 3 ปี
นายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการบริหารบริษัท ที.ซี.ซี. เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า ทีซีซี กรุ๊ป มีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันประเทศไทยให้กลายเป็นดิจิทัลเกตเวย์ของภูมิภาคโดยการใช้ คลาวด์ คอมพิวติ้งคุณภาพสูงบนศูนย์ข้อมูลระดับพรีเมี่ยมด้วยนวัตกรรมล่าสุด เพื่อยกระดับคุณภาพขององค์กรทั้งในประเทศไทย อินโดจีน และประเทศอื่นๆ ในเอเชีย จึงเป็นเหตุผลที่ TCCT และ IIJ ผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ร่วมมือกันจัดตั้งบริษัท ลีพ โซลูชั่นส์ เอเชีย จำกัด
“TCCT ยังคงดำเนินปรัชญาทางธุรกิจในการร่วมมือกับพันธมิตรจากทั่วทุกมุมโลกด้วยความเป็นกลางของศูนย์ข้อมูลประกอบกับที่ตั้งของประเทศที่ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์หลักของภูมิภาค ทำให้ไทยกลายเป็น “ฮับ” ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง ในโลกที่ดึงดูดการลงทุนมูลค่ามหาศาล รวมถึงความรู้และเทคโนโลยีจากนานาประเทศ”
“เราเชื่อมั่นว่าศูนย์ข้อมูลของ TCCT ในฐานะที่เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูลออนไลน์ที่มีความเป็นกลางสามารถเป็นแหล่งดึงดูดบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำทั่วโลก และเป็นอีกครั้งสำคัญที่เราได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากพันธมิตรญี่ปุ่นที่ไม่เพียงจะมาลงทุนในบ้านเรา แต่จะนำเอาประสบการณ์ในการบริหารจัดการเทคโนโลยีด้านคลาวด์ในหลายภูมิภาคทั่วโลก ทีมงานผู้บริหารมืออาชีพ และทีมวิจัยพัฒนา ตลอดจนองค์ความรู้ด้านคลาวด์ระดับโลกของ IIJ มาถ่ายทอดให้กับประเทศไทย และเมื่อมาผนวกกับความเชี่ยวชาญด้านศูนย์ข้อมูลในตลาดประเทศไทยของ TCCT จะสามารถเอื้อประโยชน์ให้กันและกัน และส่งผลให้ประเทศมีการพัฒนาด้านบริการโครงสร้างพื้นฐานที่มั่นคงและเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยให้ประเทศไทยก้าวสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างเต็มภาคภูมิ”นายปณตกล่าวเสริม
นายโคอิจิ มารุยาม่า เจ้าหน้าที่บริหาร – ธุรกิจระหว่างประเทศ บริษัท อินเทอร์เน็ต อินนิชิเอทีฟ เจแปน (IIJ) กล่าวว่าประเทศไทยถือได้ว่าเป็นหนึ่งในตลาด Public Cloud ที่ใหญ่ที่สุดตลาดหนึ่งในอาเซียน และยังมีแนวโน้มการเติบโตที่สูงทางด้านบริการคลาวด์สำหรับองค์กรให้เห็นอีกด้วย ด้วยปัจจัยในเชิงบวกต่างๆ เราจึงจับมือกับทีซีซี กรุ๊ป หนึ่งในกลุ่มบริษัทที่ใหญ่ที่สุดและมีศักยภาพมากที่สุดในประเทศไทย และมีบทบาทสำคัญที่จะนำบริการคลาวด์ใหม่เข้าสู่ตลาดประเทศไทย
“IIJ ครองตำแหน่งผู้นำตลาดในประเทศญี่ปุ่นมาเป็นเวลา 25 ปี ในฐานะผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายแรก และในปี ค.ศ. 2000 เราเริ่มให้บริการตามความต้องการในการใช้งาน (Resource on-Demand Services) และสั่งสมประสบการณ์การให้บริการคลาวด์ตั้งแต่นั้นมา ความสามารถด้านเครือข่ายและความรู้ทักษะในการสร้างและบริหารจัดการแพลตฟอร์มคลาวด์ขนาดใหญ่ของไอไอเจถือได้ว่าอยู่ในระดับชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ข้อได้เปรียบเหล่านี้ทำให้ไอไอเจขยายธุรกิจคลาวด์สู่ตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง ทำให้แพลตฟอร์มคลาวด์ของเรามีสาขาอยู่ทั้ง 6 ภูมิภาคทั่วโลก”
“จากการที่รัฐบาลประกาศนโยบายการผลักดันประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิตอลตั้งแต่ปี 2014 ไอไอเจได้พยายามเจาะตลาดคลาวด์ของไทยมาโดยตลอด ด้วยศูนย์ข้อมูลที่แข็งแกร่งของ TCCT พร้อมด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้านการเชื่อมต่อคุณภาพสูงและความน่าเชื่อถือของ TCCT ต่อตลาดของไทย เรามีความมั่นใจว่าความร่วมมือของทั้งสองฝ่าย จะสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจของคลาวด์ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยได้อย่างแน่นอน”
ด้านนายวรดิษฐ์ วิญญรัตน์ กรรมการบริหารและรักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.ซี.ซี. เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า TCCT เป็นผู้บุกเบิกตลาดโครงสร้างพื้นฐานไอทีของไทย ด้วยประสบการณ์ถึง 2 ทศวรรษ และมีความชำนาญด้านศูนย์ข้อมูล กอปรกับต้องการต่อยอดจากธุรกิจศูนย์ข้อมูลด้วยการให้บริการคลาวด์และต้องการขยายขีดความสามารถของธุรกิจสู่ภูมิภาค
ขณะที่ IIJ มีความต้องการขยายตลาดการให้บริการคลาวด์ในประเทศไทย ทำให้ทั้งสองฝ่าย จับมือกันตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้น ถือเป็นการนำจุดแข็งของ TCCT ด้านศูนย์ข้อมูลและ SAP Hosting ผนวกกับจุดแข็งของ IIJ ที่เป็นผู้นำในนวัตกรรมด้านคลาวด์มาช่วยตอบโจทย์ธุรกิจและทำให้ทั้งสองบริษัทฯ สามารถนำบริการสู่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น (Time to Market) ในการร่วมทุนครั้งนี้มีสัดส่วนการถือหุ้นระหว่าง TCCT และ IIJ คือร้อยละ 60 และ 40 ตามลำดับ โดยมีทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 200 ล้านบาท ทั้งนี้ได้วางเป้าหมายให้บริษัทฯ เป็นผู้นำบริการคลาวด์ในประเทศไทยและผลักดันให้ไทยเป็นดิจิทัลฮับในเอเชียภายใน 3 ปี ด้วยการขยายงบลงทุนรวม 700 ล้านบาท”
นายวรดิษฐ์กล่าวเสริมว่า “ลีพ โซลูชั่นส์ เอเชีย ถูกวางเป้าหมายให้เป็นผู้นำในการให้บริการคลาวด์สำหรับองค์กร บริษัทร่วมทุนแห่งนี้จะมุ่งเน้นเจาะตลาดในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ราชการ และบริษัท ข้ามชาติของประเทศญี่ปุ่น รวมถึงลูกค้าที่เข้ามาลงทุนจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจเอเซียน หรือเออีซี”
“ลีพ โซลูชั่นส์ เอเชีย จะพร้อมให้บริการภายในไตรมาสที่สองของปี 2559 ครอบคลุมบริการคลาวด์ที่หลากหลาย ทั้งนี้จะเริ่มจากการสร้างพื้นฐานของบริการคลาวด์ให้แข็งแกร่งโดยเน้นความเสถียรและความปลอดภัยของระบบ รวมถึงการสร้างระบบที่สามารถให้ลูกค้าบริหารค่าใช้จ่ายได้ตามการใช้งานจริง นอกจากนี้ยังจะเน้นการให้ความรู้ความเข้าใจแก่องค์กรต่างๆ ถึงประโยชน์ของคลาวด์ในการเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจ และในขั้นต่อไปบริษัทจะนำเสนอคลาวด์โซลูชั่นอัจฉริยะเพื่อตอบโจทย์ทุกประเภทธุรกิจ
โดยมีทั้งบริการการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ Big Data as a Service (BDaaS) บริการการปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ Business Process as a Service (BPaaS) รวมไปถึงการสร้างนวัตกรรมที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต หรือ Internet of Thing ทั้งนี้เรามุ่งหวังให้เกิดการปฏิรูปธุรกิจ (Business Transformation) ด้วยนวัตกรรมที่จะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนธุรกิจของลูกค้า ให้สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว”
ภายใน 3 ปีข้างหน้า ลีพ โซลูชั่นส์ เอเชีย จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดการให้บริการคลาวด์ที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจประกอบการทั้งในประเทศไทยและเอเชีย