มร.อิชิโร อิชิอิ กรรมการผู้จัดการอาวุโส โตเกียวมารีน โฮลดิ้งส์ กล่าวถึง ยุทธศาสตร์ในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มโตเกียวมารีนภายใต้ “การเติบโตอย่างยั่งยืน” โดยยึดหลักการสำคัญ 4 ประการ ได้แก่ ส่งเสริมศักยภาพด้านการประกันภัยอย่างรอบด้านเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำธุรกิจ (Unlocking our potential) , มองการณ์ไกลเพื่อพร้อมรับกับทุกเรื่องของธุรกิจ (Capitalizing on Changes), แสวงหาโอกาสในธุรกิจที่มีพื้นฐานดีเพื่อต่อยอดในการเติบโต (Pursuing growth opportunities) และพัฒนาแบบแผนการทำงานให้แข็งแกร่งเพื่อนำธุรกิจสู่ระดับโลก (Advancing our business platform)
นอกจากนี้ กลุ่มโตเกียวมารีน ยังมีความพยายามที่จะรักษาดุลยภาพในการทำธุรกิจระหว่าง ธุรกิจประกันภัยในประเทศ ธุรกิจประกันชีวิตในประเทศ และ ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิตในต่างประเทศ โดยปัจจุบันผลกำไรเกือบ 40% มาจากกลุ่มธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิตในต่างประเทศ สืบเนื่องจากธุรกิจในประเทศญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะอิ่มตัว
ดังนั้น บทบาทของธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิตในต่างประเทศก็ยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นกว่าในอดีต ดังจะเห็นได้จากการลงทุนในการซื้อธุรกิจ HCC Insurance Holdings, Inc. บริษัทสัญชาติอเมริกัน ที่มีมูลค่าสูงกว่า 7,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 255,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเสริมรากฐานความแข็งแกร่งในธุรกิจให้กับกลุ่มโตเกียวมารีน ก่อให้เกิดการประสานพลังธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิตที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในทุกภูมิภาคทั่วโลก รวมไปถึงในประเทศไทยที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการขยายการเติบโตของธุรกิจในภูมิภาคนี้
มร.อาเธอร์ ลี ประธานบริหารโตเกียวมารีนเอเชีย และประธานคณะกรรมการ บมจ. โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) รายงานผลประกอบการประจำปี 2558 มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 4,329 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 1,104 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยรับปีต่อ 3,225 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวม 25% เมื่อเทียบกับผลประกอบการปีที่แล้ว โดยสัดส่วนการขายหลักมาจากช่องทางตัวแทน 70% ประกันกลุ่ม 22% และช่องทางอื่น 8%
สำหรับ ในปี 2559 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวม 26% โดยมีเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 1,489 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับปีต่อ 3,979 บาท และเบี้ยประกันภัยรับรวม 5,468 ล้านบาท โดยกลุ่มโตเกียวมารีนสำนักงานใหญ่ ประเทศญี่ปุ่น และ สำนักงานภูมิภาคในประเทศสิงค์โปร์ พร้อมให้การสนับสนุน โตเกียวมารีนประกันชีวิต ประเทศไทย อย่างเต็มที่ในทุกๆ ด้าน เและวางแผนเดินหน้าการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องในระยะยาว
ขณะเดียวกัน นายสมโพชน์ เกียรติไกรวัล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยถึงเป้าหมายการดำเนินงานปีนี้ ตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนตัวแทนให้ได้ 3,500 คน เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของช่องทางตัวแทน 27% โดยคิดเป็นเบี้ยประกันภัยรับรวมในช่องทางตัวแทน 3,859 ล้านบาท
“บริษัทฯ จะเร่งเพิ่มจำนวนตัวแทนให้มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนา “ศักยภาพ และคุณภาพ” ในการขายของตัวแทนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตนมั่นใจว่าตัวแทนของโตเกียวมารีนประกันชีวิตนั้น ถือว่าเป็นตัวแทนที่มีศักยภาพสูง พิสูจน์ได้จากจำนวนตัวแทนที่ติดคุณวุฒิ TNQA ซึ่งในปีนี้มีเพิ่มขึ้นถึง 32 คนจากปีที่ผ่านมามี 21 คน และในปีนี้มีตัวแทนที่มีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ MDRT เพิ่มขึ้นเป็น 69 คน ในจำนวนนี้มี 7 คนที่อยู่ในระดับ COT ซึ่งนับเป็นสัดส่วนที่สูงมากเมื่อเทียบกับจำนวนตัวแทนที่มีอยู่”
สำหรับกลยุทธ์ในการขายยังคงมุ่งไปที่สินค้าประเภทบำนาญที่มีจุดแข็งในด้านการ “การันตีผลตอบแทน” ในวันที่ลูกค้าเกษียณอายุ รองลงมาคือสินค้าในกลุ่มคุ้มครองตลอดชีพ และสะสมทรัพย์ ในปีที่ผ่านมาบริษัทพัฒนาสินค้าแพ็คเก็จสุขภาพ ที่ให้ความคุ้มครองชีวิต และความคุ้มครองการรักษาพยาบาลและศัลยกรรมวงเงินสูงสุดถึง 6 ล้านบาท โดยความคุ้มครองจะเพิ่มเป็น 2 เท่าในกรณีเกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง 5 โรค (กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด โรคมะเร็งระยะลุกลาม การปลูกถ่ายอวัยวะสำคัญ โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน และการผ่าตัดเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ)
สำหรับผลประกอบการในช่องทางตัวแทนปีที่ผ่านมา มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 3,028 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรับปีแรกสำหรับช่องทางตัวแทน 762 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยรับปีต่อ 2,266 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวม 24%