6 ธันวาคม 2560 : นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นแห่งชาติ (National Startup Committee: NSC) (คณะกรรมการฯ) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการฯ ถึงความคืบหน้าการดำเนินการในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปี 2560 ซึ่งมีประเด็นที่สำคัญ ดังนี้
1. คณะกรรมการฯ เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติพัฒนาวิสาหกิจเริ่มต้นและนวัตกรรมเชิงนโยบาย ของคณะทำงานเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้น (คณะทำงานชุดที่ 2) ที่มีสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติเป็นฝ่ายเลขานุการ โดยร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวเพื่อเร่งแก้ไขข้อจำกัดและอุปสรรคต่าง ๆ ที่ไม่เอื้อต่อการพัฒนาของระบบนิเวศในการสนับสนุน Startup (Startup Ecosystem)
นอกจากนี้ จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาวิสาหกิจเริ่มต้นและนวัตกรรมเชิงนโยบาย ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายเป็นประธาน เพื่อทำหน้าที่กำหนดนโยบายและแนวทางการส่งเสริมและพัฒนา Startup ของประเทศไทย รวมทั้ง จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะด้าน 2 คณะ ได้แก่ (1) คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้น ซึ่งมีหน้าที่จัดทำหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการรับรองวิสาหกิจเริ่มต้น รวมทั้ง พิจารณาให้และเพิกถอนสิทธิประโยชน์แก่ Startup ที่ได้รับการส่งเสริม
และ (2) คณะกรรมการพัฒนานวัตกรรมเชิงนโยบาย เพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลโครงการทดสอบและพัฒนานวัตกรรมเชิงนโยบาย (Regulatory Sandbox) ซึ่งเป็นโครงการ
ที่เปิดโอกาสให้ Startup ประเภทนิติบุคคลและนิติบุคคลอื่นในทุกสาขาสามารถนำเสนอสินค้าและบริการภายในพื้นที่หรือสภาพแวดล้อมของการประกอบธุรกิจและการให้บริการที่จำกัดภายใต้กรอบหลักเกณฑ์การกำกับดูแลที่ยืดหยุ่น ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้คณะทำงานชุดที่ 2 นำเสนอร่าง พ.ร.บ. ต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป
2. โครงการ Startup Club ในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา/อาชีวศึกษา ปัจจุบัน มีโรงเรียนฯ เข้าร่วมโครงการ Startup Club แล้วรวม 109 สถาบันใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ และได้เริ่มดำเนินกิจกรรมแล้ว 17 สถาบันใน 15 จังหวัด รวมทั้ง ได้มีการจัดทำ Facebook Page “Startup Club Thailand” (https://www.facebook.com/startupclubth) เพื่อเป็นสื่อกลางในการประชาสัมพันธ์กิจกรรมของคณะกรรมการฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยนความรู้ระหว่าง Startup Club ทั่วประเทศ
นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ได้เห็นชอบโครงการพัฒนาครูและบุคลากรในสถาบันการศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่รับผิดชอบ Startup Club ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ครูและบุคลากรที่เกี่ยวข้องให้สามารถถ่ายทอดกระบวนการ และแนวความคิดด้านการประกอบการให้แก่เด็กนักเรียน โดยจะเป็นกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ จำนวน 6 ครั้ง ตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ รวมทั้ง ได้เห็นชอบหนังสือและสื่อออนไลน์ในประเด็นการเป็นผู้ประกอบการ Startup ความรู้ทางการเงิน และภาษี ที่จะเป็นประโยชน์ต่อนักเรียน และตารางกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Startup สำหรับปี 2561 โดยจะส่งมอบภายในเดือนธันวาคม 2560
3. ผลงานอื่นๆ ที่สำคัญของคณะกรรมการฯ ในปี 2560
3.1 จากการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ ที่ได้เน้นส่งเสริมด้านการสร้างความตระหนักรู้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การบ่มเพาะ และการดำเนินนโยบายของรัฐบาล ส่งผลให้เว็บไซต์ PeoplePerHour ซึ่งเป็นผู้จัดอันดับ Startup City Index ได้จัดให้ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 7 ของโลก และอันดับที่ 1 ของเอเชียในการเป็นเมืองเพื่อเริ่มต้นธุรกิจ Startup โดยพิจารณาจากความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business) ต้นทุน และคุณภาพชีวิต
3.2 การแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ใน 4 ประเด็น (การแก้ไขเพิ่มเติมให้บริษัทจำกัดดำเนินการได้ในประเด็นหุ้นกู้แปลงสภาพ การทยอยให้หุ้น (Vesting) สิทธิที่จะซื้อหุ้นในราคาที่กำหนด (ESOP) และหุ้นบุริมสิทธิ) มีความคืบหน้าเป็นที่น่าพอใจ โดยคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการของร่างกฎหมายเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 และปัจจุบัน ร่างพระราชบัญญัติ ฯ ดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนของการตรวจพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา
สำหรับ แผนการดำเนินงานในปี 2561 การจัดงาน Startup Thailand 2018 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 17 – 20 พฤษภาคม 2561 ภายใต้แนวคิด “Invest Nation” โดยจะมุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจใหม่ในประเทศไทยที่ดำเนินธุรกิจด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้สามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด และดึงดูดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ โดยตั้งเป้าหมายให้เกิดการลงทุนกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงผลักดันให้เกิดนักรบใหม่ทางเศรษฐกิจเพื่อให้สามารถขยายตลาดไปสู่
ตลาดต่างประเทศ