WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันอาทิตย์ ที่ 24 พฤศจิกายน 2567 ติดต่อเรา
ทิพยประกันภัย เดินเครื่องเจาะตลาดดิจิตอล… ชู “See Doctor Now” บริการปรึกษาหมอโดยตรงผ่านแอปฯ ##

4 ธันวาคม 2560 : ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP เปิดเผยว่า บริษัทฯ กำหนดกลยุทธ์ในการรุกตลาดดิจิตอล Digital Insure อย่างเต็มรูปแบบ ล่าสุดร่วมมือก้บบริษัท Startup เพื่อให้บริการ See Doctor Now บริการปรึกษาทางการแพทย์ ผ่านแอปพลิเคชั่นให้กับลูกค้าที่ทำประกันสุขภาพ ที่จะมีโอกาสขอคำปรึกษาด้านสุขภาพฟรีกับหมอได้โดยตรง ในเบื้องต้นจะให้บริการสำหรับผู้ที่มีทุนประกันสุขภาพตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป

“การบริการ See Doctor Now เป็นแนวคิดจากกลุ่มนายแพทย์รุ่นใหม่ที่ไปเรียนจากประเทศสหรัฐฯ 10 ท่าน มองว่าที่สหรัฐฯ การเข้าไปหาหมอเป็นเรื่องที่ต้องนัดหมายและไม่รู้ว่าหมอคนไหนเก่งหรือไม่เก่งเรื่องอะไร ดังนั้น จึงนำแนวคิดนี้มาทำในเมืองไทยและระดมเครือข่ายหมอ เข้ามาเป็นเครือข่ายของหมอใน See Doctor Now ประชาชนก็สามารถเข้ามาสมัครเป็นสมาชิก หากเกิดเจ็บป่วยขึ้นสามารถใช้แอพพลิเคชั่น คุยกับหมอได้ทันที รวมทั้งหมอสามารถสั่งยาได้ด้วย เพราะฉะนั้นกรมธรรม์ประกันสุขภาพของทิพยฯ ลูกค้าสามารถใช้บริการได้ฟรี โดยบริษัทฯ ไม่ได้เพิ่มเบี้ยประกัน”

S__13262946

ปัจจุบันบริการดังกล่าวใช้กับการประกันสุขภาพมาแล้ว 3 เดือน ผู้เอาประกันสามารถขอคำปรึกษาจากหมอได้โดยตรง บางเรื่องอาจจะไม่ต้องไปโรงพยาบาล บางเรื่องอาจจะหาหมอที่มีความเชี่ยวชาญและรีบรักษาให้หายอย่างรวดเร็วได้ สุดท้ายก็จะเป็นผลดีต่อธุรกิจประกันภัย แต่ขณะนี้ยังไม่มีเคสมากถึงขนาดจะนำมาพิสูจน์ได้ว่า สามารถลำต้นทุนด้านการจ่ายสินไหมประกันสุขภาพได้จริง แต่สิ่งที่มองคือต้องการให้ลูกค้ามีช่องทางเลือกของการบริการที่ได้มากกว่า ขณะนี้ยังพิจารณาอยู่ว่าหากได้รับผลตอบรับที่ดี คาดว่าจะสามารถครอบคลุมกับการบริการสำหรับประกันภัยอื่นๆ ด้วย

ดร.สมพรกล่าวถึงเป้าหมายการดำเนินงานปี 2561 ซึ่งสมาคมประกันวินาศภัยตั้งเป้าอุตสาหกรรมประกันภัยเติบโตประมาณ 3-4% ดังนั้นทิพยฯ ก็คาดว่าจะเติบโตมากกว่าอุตสากหรรมครึ่งเท่า ซึงเบี้ยประกันรับภายในปี 2560 คาดว่าจะทำได้ประมาณ 21,000 ล้านบาท โดยในอดีตจุดแข็งของบริษัทฯ อยู่ที่ฐานลูกค้าภาครัฐขนาดใหญ่ เป็นหลัก แต่จากนี้ไปจะขยายสู่การรับประกันของภาคเอกชน และรายย่อยเพิ่มมากขึ้น รวมถึงขายผ่านช่องทางตลาดดิจิตอล ตามความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม

“ช่องทางการตลาดผ่านดิจิตอล ขณะนี้อยู่ในช่วงที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้น เช่นการประกันภัยเดินทาง ที่เริ่มได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งถ้ามองจำนวนเบี้ยประกันอาจจะยังไม่สูงมากเมื่อเทียบกับจำนวนกรมธรรม์ แต่เป็นสัณญาณที่บ่งบอกถึงการขยายตัวที่ดี แต่อย่างไรก็ดี การซื้อประกันภัยผ่านช่องทางดิจิตอลในบ้านเรายังต้องใช้เวลา เพราะจากที่มีการวิเคราะห์ผู้ที่ช็อปสินค้าทางออนไลน์ จะเน้นราคาถูกเป็นหลัก เราจึงจะพยายามเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ซื้อ ให้พิจารณาของดี ที่คุ้มค่าเงิน มากกว่าของราคาถูกเพียงอย่างเดียว ซึ่่งทิพยฯ จะไม่ไปสร้างสงครามราคาในตลาดดิจิตอล”

2560-4 (2)

นอกจากนี้ ทางด้านการประกันภัยในตลาดประเทศอาเซี่ยน ได้แก่ประเทศลาว ที่เริ่มลงทุนมีแล้ว 3 ปี คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีเบี้ยประกัน 200 ล้านบาท จะทำให้บริษัทฯ ติดอันดับ 1 ใน 5 ของธุรกิจประกันภัยในประเทศลาวที่ีมีประมาณ 20 บริษัท ในจำนวนนี้แบ่งสัดส่วนเป็นประกันรถยนต์ 30% ประกันเบ็ดเตล็ด 40% ประกันชีวิต 20% ที่เหลือเป็นประกันอื่นๆ ซึ่งกรมธรรม์ประกันรถยนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากคือ ประกันแบบ “ชนลาวซ่อมไทย” เนื่องจากคนลาวจะมีความเชื่อมั่นศูนย์ซ่อมของประเทศไทยมากกว่า ส่วนการประกันสุขภาพที่ขายดีมีชื่อว่า “TIP OK” เน้น “ป่วยที่ลาว รักษาที่ไทย” เช่นกัน

“ปัจจุบันบริษัทมีสำนักงานใหญ่ที่เวียงจันทร์ มีสาขาที่สวรรณเขต และคาดว่าการลงทุนในลาวจะเริ่มรับรู้ผลกำไรได้ภายใน 4 ปี ส่วนประเทศอื่นๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อไปลงทุน เช่น กัพูชา และเมียนมาร์”

พร้อมกันนี ดร.สมพร ยังกล่าวต่อไปถึง ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2560 ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 537.59 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 1.79 บาท จากเบี้ยประกันภัยรับรวม 3,525.07 ล้านบาท ประกอบด้วย เบี้ยประกันอัคคีภัย 337.60 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยทางทะเลและขนส่ง 60.25 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรถยนต์ 648.13 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล 1,495.95 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยเบ็ดเตล็ด 983.14 ล้านบาท

S__13811729

ขณะที่กำไรสุทธิสะสมงวด 9 เดือนอยู่ที่ 1,425.31 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 4.75 บาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่กำไรสุทธิ 1,415.74 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 4.72 บาท โดยเบี้ยประกันภัยรับรวม 11,886.59 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยประกันอัคคีภัย 1,317.69 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยทางทะเลและขนส่ง 189.38 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรถยนต์ 1,957.64 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล 5,021.60 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยเบ็ดเตล็ด 3,400.28 ล้านบาท

ด้านฐานะทางการเงิน ณ วันที่ 30 กันยายน 2560 สินทรัพย์รวม 46,223.97 ล้านบาท หนี้สินรวม 38,964.79 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 7,259.18 ล้านบาท

ดร.สมพร กล่าวว่า ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ เพราะสถานการณ์การแข่งขันที่รุนแรง แต่บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการด้านการรับประกันภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถทำกำไรจากการรับประกันภัยได้สูงถึง 1,035.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 978.07 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 57.05 ล้านบาท คิดเป็น 5.83%

สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนการขยายอย่างต่อเนื่องนั้น เป็นเพราะบริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย รองรับพฤติกรรมลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่างกันในแต่ละกลุ่ม เพื่อให้ลูกค้าได้รับผลประโยชน์คุ้มค่า และได้รับความพึงพอใจสูงสุด ซึ่งจะสอดคล้องกับนโยบายบริษัท พร้อมเป็น Digital Insure อย่างเต็มรูปแบบด้วย logo เล็ก (ปิดท้ายข่าว)

ประกันภัย ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP